SUN โชว์ผลงานปี 63 ยอดเยี่ยม กำไรสุทธิ 192.91 ล้านบาท รายได้แตะ 2,610.59 ล้านบาท บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลอีก 0.30 บาท โดยจ่ายเป็นหุ้นปันผล 2 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล ในอัตรา 0.25 บาท และจ่ายเป็นเงินสดในอัตรา 0.05 บาท Record Date วันที่ 28 เม.ย. 64 พร้อมอนุมัติเข้าจดทะเบียนใน SET เปิดทางนักลงทุนเพิ่มสภาพคล่อง เสริมแกร่งขับเคลื่อนธุรกิจอุตสาหกรรมการเกษตร
นายองอาจ กิตติคุณชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ SUN ผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวโพดหวานแปรรูป และสินค้าเกษตรอื่นๆ ภายใต้ตราสินค้า "KC" เปิดเผยว่า ในปี 2563 เป็นปีที่บริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวม 2,610.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 690.85 ล้านบาท หรือคิดเป็น 35.98 % กำไรสุทธิ 192.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 234.90 ล้านบาท หรือคิดเป็น 560.60 % เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เนื่องจากสามารถขยายตลาดได้มากขึ้น โดยเฉพาะตลาดภายในประเทศจากกลุ่มสินค้าพร้อมทาน (Ready to eat) และมีการขยายฐาน ในกลุ่มสินค้าข้าวโพดหวานบรรจุกระป๋อง และข้าวโพดหวานแช่แข็ง ในแถบภูมิภาคเอเชีย และยุโรป ซึ่งเป็นลูกค้าที่มีเสถียรภาพเข้ามาเพิ่มเติมจากจำนวนลูกค้าเดิมที่มีอยู่ ทำให้มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติให้ดำเนินการย้ายหลักทรัพย์ SUN จากตลาด mai ไปเข้าซื้อขายในตลาด SET เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ SUN อยู่ในตลาด mai บริษัทมีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการขยายธุรกิจโดยการลงทุนโครงการใหม่ ๆ ต่อยอดการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งการย้ายเข้า SET ถือเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และเพิ่มโอกาสให้ธุรกิจเติบโตยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน เสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2564 ในวันที่ 20 เมษายน 2564 พิจารณาอนุมัติการจ่ายปันผลจากผลการดำเนินงานของบริษัทจากงบการเงินเฉพาะกิจการสำหรับรอบปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563 โดยบริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงาน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท รวมเป็นเงิน 21.5 ล้านบาท เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2563
ทั้งนี้มีมติจ่ายเพิ่มอีก อัตราหุ้นละ 0.30 บาท เป็นจำนวน 129 ล้านบาท โดยแบ่งจ่ายเป็นหุ้นปันผลและเงินสด ดังนี้
- จ่ายปันผลเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท รวมไม่เกิน 215 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท ในอัตรา 2 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น ไม่เกิน 107.5 ล้านบาท คิดเป็นการจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท และ
- จ่ายปันผลเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท เป็นจำนวนเงิน 21.5 ล้านบาท
โดยการจ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท แบ่งเป็น
- การปันผลในอัตราหุ้นละ 0.22 บาท จากกำไรสุทธิที่ได้รับยกเว้นภาษีจากสิทธิประโยชน์ส่งเสริมการลงทุน (BOI) ผู้ถือหุ้นที่เป็นบุคคลธรรมดาไม่ถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายและไม่สามารถเครดิตภาษีได้ และ
- การปันผลในอัตรา หุ้นละ 0.08 บาท จากกำไรสุทธิที่ไม่ได้รับการยกเว้นภาษีจากสิทธิประโยชน์ส่งเสริมการลงทุน (Non-BOI)
กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับปันผล (Record Date) ในวันที่ 28 เมษายน 2564 และจ่ายปันผลในวันที่ 14 พฤษภาคม 2564