พบป่วยและเข้ารักษา 33 ราย กรมอนามัยเผยผลสำรวจล่าสุด พบว่าประชาชนมีการเช็กค่าฝุ่น เพียงร้อยละ 32.1 แต่พบว่าคนไทยกังวลผลกระทบต่อสุขภาพถึงร้อยละ 76.6 ยังสวมหน้ากากป้องดีถึงร้อยละ 82.6 พร้อมแนะดูแลและป้องกันสุขภาพตนเองและครอบครัว นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากการคาดการณ์ในช่วงวันที่ 23-28 กุมภาพันธ์ 2564 สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในภาพรวมจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนืออาจเกิดการสะสมของฝุ่นละอองเพิ่มขึ้น จากการเผาในที่โล่ง ส่งผลให้ในบางพื้นที่มีแนวโน้มเกินค่ามาตรฐานถึงอยู่ในระดับสีส้มที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพได้ ซึ่งจากข้อมูลรายงานการเฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ของกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลพบว่ามีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น โดยมีผู้ป่วยที่มาเข้ารับรักษาในโรงพยาบาลเครือข่าย จำนวน 33 ราย ส่วนใหญ่เป็นโรคระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ รองลงมาคือ โรคหอบหืดและปอดอุดกั้นเรื้อรัง และส่วนใหญ่ยังเป็นผู้ที่มาเข้ารับบริการที่แผนกฉุกเฉิน (ER) 23 ราย สำหรับใน 17 จังหวัดภาคเหนือ พบว่า ส่วนใหญ่มารับบริการที่โรงพยาบาลด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ ผลสำรวจผลกระทบต่อสุขภาพโดยการประเมินอาการตนเองของประชาชนด้วยอนามัยโพลล่าสุด พบว่า ร้อยละของผู้ที่มีอาการมีแนวโน้มลดลง โดยอาการที่พบมากที่สุดยังคงเป็นอาการระบบทางหายใจส่วนบน ได้แก่ อาการมีน้ำมูก ร้อยละ 11.7 รองลงมา คือ แสบจมูก ร้อยละ 9.15 และพบมีอาการระคายเคืองตา ร้อยละ 9.15 ตามลำดับ กลุ่มที่พบมีอาการมากสุดได้แก่ วัยทำงานและกลุ่มผู้สูงอายุ และยังพบว่าประชาชนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เพิ่มขึ้น โดยมีความวิตกกังวลถึงร้อยละ 76.6 แต่มีพฤติกรรมในการป้องกันตนเองจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีการตรวจเช็คค่าฝุ่นเพียงร้อยละ 32.1 งดการออกกำลังกายกลางแจ้ง ร้อยละ 36.9 ปิดประตูหน้าต่าง ร้อยละ 57.0 ไม่เผาขยะ กระดาษ และจุดธูป ร้อยละ 50.70 ลดระยะเวลาออกนอกอาคาร ร้อยละ 51.8 และสวมหน้ากากป้องกันฝุ่น ร้อยละ 82.6 “ทั้งนี้ จากสถานการณ์ PM2.5 ที่มีแนวโน้มเกินมาตรฐานในหลายพื้นที่ในสัปดาห์นี้ ขอให้ประชาชนควรติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน Air4thai ของกรมควบคุมมลพิษ หรือติดตามข่าวสารตามช่องทางต่าง ๆ ของหน่วยงานราชการ เช่น เพจ “คนรักอนามัย ใส่ใจอากาศ PM2.5” หากอยู่ในช่วงที่มีฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในระดับสีส้มและสีแดง ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมนอกบ้าน หรือหากต้องออกนอกบ้านควรสวมใส่หน้ากากป้องกันฝุ่น โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ กลุ่มผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ และผู้มีโรคประจำตัว เช่น หอบหืด ภูมิแพ้ เยื่อบุตาอักเสบ หัวใจและหลอดเลือด รวมถึงผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง และผู้ที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง และขอความร่วมมือประชาชนในการลดการเผา เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพจากฝุ่นละออง” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว