หลวงพี่น้ำฝน นำคณะศิษย์สายบุญ ร่วมมอบเตียงผู้ป่วยไฟฟ้า ให้กับศูนย์โรคหัวใจและระบบหลอดเลือด โรงพยาบาลนครปฐม จำนวน 34 เตียง มูลค่า 1 ล้านบาทเศษ โดยตั้งเป้าให้ถึง 200 เตียงให้เร็วที่สุด เพื่อความสะดวกของผู้ป่วยและทีมแพทย์พยาบาล วันนี้ ( 22 ก.พ.64) ที่วิหารพระพุทธเมตตาประทานพร วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม นำคณะศิษย์ ร่วมกันมอบเตียงผู้ป่วยแบบไฟฟ้า จำนวน 34 เตียง มูลค่า 1,326,000 บาท โดยมี นายบุญเชิด กิตติธรางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม นายสมชาติ สาลีพัฒนา (เฮียเงี๊ยบ) เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบ ดร.ประกอบ คุณวรรณา จิรกิติ คุณสมสมศักดิ์ คุณวนิดา รงควิลิต และกลุ่มผุ้ใจบุญเป็นผู้ส่งมอบ ให้กับ พญ.ดารารัตน์ รัตนรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครปฐม เป็นตัวแทนในการรับมอบ นายสมชาติ สาลีพัฒนา เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบ บอกว่าได้เข้ามาร่วมบุญในการมอบเตียงครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว และทุกครั้งรู้สึกมีความสุขที่ได้มาร่วมบุญ ยิ่งได้เห็นผู้คนมาใช้เตียงที่ได้บริจาคให้แล้วมีความสุข และการช่วยเหลือสังคมทางด้านการแพทย์นั้นมีความสำคัญมาก เพราะทุกโรงพยาบาลดก็ยังต้องการเตียงอยู่โดยมีหลายแห่งยังีเตียงไม่เพียงพอ พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม กล่าวว่า วันนี้มีผู้บริจาคเตียงมา 34 เตียง ซึ่งทางโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม ได้มีการทำหนังสือขอสนับสนุนมา 200 เตียง ซึ่งตอนนี้ได้มอบไป 3 รอบ ประกอบด้วย ครั้งที่ 1 วันที่ 5 ต.ค. 63 จำนวน 4 เตียง เป็นเงิน 156,000 บาท ครั้งที่ 2 วันที่ 18 ม.ค. 64 จำนวน 25 เตียง เป็นเงิน 975,000 บาท ครั้งที่ 3 วันที่ 22 ก.พ. 64 จำนวน 34 เตียง เป็นเงิน 1,326,000 บาท รวม 63 เตียง เป็นเงิน 2,457,000 บาท โดยจะเร่งรวมจิตศรัทธาจากคณะศิษย์และผู้ใจบุญ มาจัดให้ครบ 200 เตียงให้เร็วที่สุด ซึ่งตอนี้มีการแจ้งเข้ามาแล้วมากกว่า 30`เตียงแล้วสำหรับในรอบต่อไป คาดว่าจะสามารถทำให้ประชาชนได้ใช้ในเร็วๆนี้ หลวงพี่น้ำฝน กล่าวอีกว่า สำหรับการอกมาช่วยเหลือโรงพยาบาลครั้งนี้อาตมาคิดว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำ เพราะงบประมาณที่ทางโรงพยาบบาลได้รับมานั้นไม่เพียงพอเมื่อทางวัดจัดให้ได้ก็จะต้องรีบทำเพราะเป็นหน้าที่ของคณะสงฆ์ ในงานด้านสาธารณสงเคราะห์ และภาพที่ปรากฏที่เคยเห็นผู้ป่วยนอนไร้เตียงแบบเผลสนามก็ติดตามอาตมา ซึ่งมีความเวทนาและได้นำคณะศิษย์ไปดูด้วยตัวเอง จึงเกิดแนวคิดที่จะสนับสนุนกิจการของโรงพยาบาลนครปฐมและโรงพยาบาลอื่นๆ ในเรื่องนี้ โดยยังมีงานด้านสังคมสงเคราะห์ที่ได้ทำงานควบคู่กันไปด้วย