ไล่ล่าระทึกขวัญคนใช้ท้องถนนเส้นทางสัญจรผ่าน หลังพ่วง 18 ล้อ ซิ่งระห่ำหนีด่านตรวจข้ามจังหวัด ทำเกิดอุบัติเหตุวุ่นวาย สุดท้ายไปไม่รอดหลังตำรวจ 5 โรงพักตั้งจุดสกัดรอบทิศทาง ขณะคนขับอ้างหวั่นถูกกลั่นแกล้งทำให้ไม่กล้าหยุดรถ ก่อนสารภาพเคยเสพใบกระท่อมผสมเครื่องดื่มชูกำลังมาก่อนหน้านี้ วันที่ 2 ก.ย.59 เวลา 12.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางน้ำเปรี้ยว ได้รับการประสานงานขอความช่วยเหลือจาก ร.ต.ท.ทวนทอง ทับมุกข์ รอง สวป. สภ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวรงานป้องกันและปราบปราม ขณะกำลังตั้งด่านอยู่ที่บริเวณด้านหน้าโครงการพัฒนาส่วนพระองค์ฯ (บางแตน) ซึ่งเป็นท้องที่ติดต่อกัน ให้ช่วยสกัดจับรถยนต์บรรทุกพ่วง 18 ล้อ แบบสองตอน ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียนส่วนหัวลาก 63-0733 กทม. เลขทะเบียนหางพ่วง 78-2600 กทม. ที่ได้ขับแหกด่านหลบหนี ขณะถูกเรียกให้ทำการหยุดรถเพื่อขอตรวจค้น โดยมี ร.ต.ท.ทวนทอง พร้อมกำลังรวม 7 นาย ได้ขับรถยนต์สายตรวจงานป้องกันและปราบปราม และรถยนต์สายตรวจจราจร ติดตามมาอย่างกระชั้นชิด และได้พยายามเรียกและสกัดให้รถบรรทุกพ่วงหยุดรถ แต่คนขับนั้นไม่ยอมจอด หรือหยุดรถให้ทำการตรวจค้น อีกทั้งยังได้ทำการขับรถส่ายไปมา เพื่อป้องกันไม่ให้รถของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นแซงขึ้นไปขวางที่ด้านหน้าได้ อีกด้วย หลังรับแจ้งจึงได้วิทยุขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากท้องที่ สภ.ต่างๆ ทางทางศูนย์วิทยุ 191 แปดริ้ว ที่อยู่รายรอบและมีเส้นทางเชื่อมต่อถึงกัน รวม 5 ท้องที่ ทั้ง สภ.เมืองฉะเชิงเทรา สภ.คลองเขื่อน สภ.บางขนาก โดยมีรถยนต์สายตรวจของ สภ.บางน้ำเปรี้ยว และ สภ.บ้านสร้าง ไล่ติดตามมาตลอดเส้นทาง เพื่อที่จะบังคับให้คนขับหยุดรถ แต่ปรากฏว่าคนขับนั้นไม่มีทีท่ายินยอมว่าจะหยุดรถให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้นแต่อย่างใด โดยได้ขับมุ่งหน้าจากท้องที่ สภ.บ้านสร้าง เข้ามายังในท้องที่ สภ.บางน้ำเปรี้ยว ผ่านจุดสกัดสี่แยก ของ สภ.บางน้ำเปรี้ยว ที่พยายามช่วยสกัดจับ แต่คนขับไม่ยินยอมหยุดรถ และได้ขับหลบหนีไปเรื่อยๆ ยังในเขตพื้นที่ ต.บางขวัญ ท้องที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ก่อนที่จะเลี้ยวรถวกกลับเข้ามายังในเขตท้องที่ สภ.บางน้ำเปรี้ยวอีกครั้ง และเลี้ยวเข้าไปยังในซอยวัดโพรงอากาศ เพื่อที่จะไปทะลุผ่านออกในท้องที่ สภ.คลองเขื่อน และ สภ.บางขนาก อีกด้าน จนเจ้าหน้าที่ สภ.บางขนาก ได้ขอให้รถยนต์บรรทุกพ่วงที่กำลังขับผ่านเส้นทางมาให้ช่วยจอดขวางเส้นทางเอาไว้ คนขับจึงได้กลับรถและเลี้ยวกลับเข้ามายังบริเวณภายในซอยวัดโพรงอากาศ ท้องที่ สภ.บางน้ำเปรี้ยวอีกครั้ง ก่อนที่จะถูกสกัดเอาไว้ได้ในที่สุด ซึ่งการไล่ล่าในครั้งนี้ได้ใช้เวลานานเกือบ 2 ชม. จึงจะสามารถหยุดรถพ่วงคันดังกล่าวเอาไว้ได้ แต่หลังจากเจ้าหน้าที่ ได้เข้าทำการตรวจค้นภายในรถแล้ว กลับไม่พบว่ามีสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด โดยพบเพียงสองพ่อลูกที่นั่งมาในรถด้วยกัน คือ นายกุม แจ้งจุฬา อายุ 50 ปี เป็นคนขับและ นายทรงวิทย์ แจ้งจุฬา อายุ 19 ปี บุตรชาย ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 63 ม.5 ต.โพนสูง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี โดย นายกุม ให้การว่า ตนเป็นพนักงานขับรถรับจ้างบรรทุกขนส่งขวดเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อหนึ่ง (กระทิงแดง) ซึ่งจะขับไปรับขวดมาจากโรงงานผลิตขวดในเขต จ.สระบุรี เพื่อนำมาส่งยังที่โรงงานผลิตเครื่องดื่มใน ต.บางแตน อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี เป็นประจำเกือบทุกวันเป็นเวลานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยได้ค่าจ้างเป็นรายเที่ยว เที่ยวละ 500 บาท ใน 1 เที่ยวจะใช้เวลาประมาณ 3 ชม. รวมไปกลับจะใช้เวลา ประมาณ 6 ชม. ซึ่งในวันนี้ขณะที่ได้ไปลงชื่อเข้าเที่ยวยังที่โรงงานผลิตเครื่องดื่มดังกล่าวแล้ว กำลังจะขับรถออกมาหาซื้อข้าวกิน เพื่อที่จะเดินทางต่อไปยัง จ.สระบุรี ในการไปรับขวดมาส่งให้แก่ทางโรงงานเครื่องดื่ม ได้มาพบด่านตรวจ และมีตำรวจเรียกให้หยุดรถ ตนจึงได้ชะลอรถ และเห็นตำรวจได้ใช้มือโบกเรียกอีกครั้งตนจึงเข้าใจว่าให้ผ่านไปได้ (ซึ่งมาทราบจากตำรวจว่าเขาโบกให้ไปเรียกบุตรชายลงมาจากรถด้วย) ตนจึงได้ขับรถออกจากด่านไป และไม่ทราบว่ามีรถตำรวจขับไล่ติดตามมา และไม่เห็นตำรวจ สภ.บางน้ำเปรี้ยว ที่เรียกสกัดให้หยุดรถ ที่บริเวณสี่แยกบางน้ำเปรี้ยวอีกด้วย โดยมาเห็นในภายหลังว่ามีรถขับติดตามมา ซึ่งตนเกรงว่าจะเป็นการกลั่นแกล้งกัน ของคนขับรถด้วยกันที่มักจะโทรศัพท์แจ้งให้ตำรวจเรียกจับรถ เพื่อแย่งเที่ยวงานกันจึงไม่ได้หยุดรถ และที่ขับวนย้อนกลับไปมาถึง 3-4 รอบ ในท้องที่บางน้ำเปรี้ยวนั้น เพราะมีรถจอดขวางเส้นทางอยู่ไปต่อไม่ได้ จึงต้องหาทางออก โดยตนยอมรับว่าได้เคยกินใบกระท่อม 2 ใบ พร้อมกับเครื่องดื่มชูกำลัง 1 ขวด มาเพื่อกระตุ้นร่างกายไม่ให้ง่วงในขณะขับรถ ที่ต้องเร่งขับทำเที่ยวให้ได้วันละประมาณ 2 เที่ยว และใบกระท่อมยังเป็นยารักษาโรคเบาหวานอีกด้วย โดยที่ไม่ได้เสพยาบ้า หรือดื่มสุรามาแต่อย่างใด นายกุม กล่าว ด้าน ร.ต.ท.ทวนทอง กล่าวว่า ได้นำกำลังสายตรวจงานป้องกันและปราบปรามรวม 7 นาย ทำการตั้งด่าน และเรียกรถที่ขับเข้าด่านมา แต่รถคันนี้ไม่ยอมหยุดให้ตรวจค้น จึงต้องสงสัยว่าน่าจะมีสิ่งผิดกฎหมายอยู่ในรถ หรือยุ่งเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงได้ทำการไล่ติดตามมา และขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.บางน้ำเปรี้ยว ช่วยสกัดอีกทางแล้ว แต่ก็ยังไม่ยอมหยุด โดยเขาขับวนอยู่ในเส้นทาง บ้างน้ำเปรี้ยว-ฉะเชิงเทรา ประมาณ 2-3 รอบก่อนที่จะเลี้ยวเข้าไปยังในซอยวัดโพรงอากาศ และวนกลับออกมาอีกครั้ง จึงสามารถสกัดจับ หยุดรถเอาไว้ได้ และหลังจากการตรวจค้นแล้ว ไม่พบว่ามีสิ่งผิดกฎหมายอะไรอยู่ในรถ โดยขณะที่รถคันนี้เข้ามายังที่ด่านนั้นได้ชะลอรถเข้ามา แต่เมื่อถูกเรียกให้หยุดแล้วกลับไม่ยอมหยุด และได้รีบขับหลบหนีออกไป จึงต้องติดตามสกัดเพื่อตรวจค้น ซึ่งเบื้องต้นนั้นผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่าเคยเสพยามา โดยจะได้นำตัวไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด และส่งไปให้ ร.ต.อ.อำพล วันดี รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.บ้านสร้าง ทำการสอบสวนดำเนินคดีต่อไป ร.ต.ท.ทวนทอง กล่าว ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านสร้าง และ สภ.บางน้ำเปรี้ยว ได้ใช้รถยนต์สายตรวจ ขับไล่กวดติดตามรถคันก่อเหตุที่หลบหนีแหกด่านมานั้น ได้ทำให้รถยนต์สายตรวจจราจรของ สภ.บ้านสร้าง หมายเลขทะเบียนตราโล่ 22139 เสียหลักพุ่งชนเข้ากับรถยนต์เก๋ง หมายเลขทะเบียน กฉ-3482 ฉะเชิงเทรา ของชาวบ้านจนพังเสียหายจำนวน 1 คัน ที่บริเวณปากทางแยกเข้าวัดโพรงอากาศพอดี ในพื้นที่ ม.9 ต.โพรงอากาศ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา โดยรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวมีคนนั่งมาทั้งครอบครัวรวม 5 ชีวิต แต่โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไรทั้งสองฝ่าย แต่รถพังเสียหายหนักทั้งสองคัน นอกจากนี้คนขับรถบรรทุกพ่วงคันก่อเหตุยัง ให้การลักษณะพูดวกวนไปมาอีกด้วย