ครอบครัวซาไกเบตงเฮ ได้สัญชาติไทยเต็มตัวแล้ว พร้อมได้สิทธิ์ เราชนะ ตามรัฐบาล มอบให้ในฐานะคนไทยเต็มตัว ขณะที่ตัวแทนกลุ่มซาไกหรืออัสลี ขอบคุณรัฐบาลที่ไม่ทอดทิ้ง
เมื่อวันที่ 20 ก.พ.64ที่ธนาคารกรุงไทย สาขาเบตง อ.เบตง จ.ยะลา คณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเบตง ลงพื้นที่บ้านนากอ ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา เพื่อติดตาม และหาแนวทางการช่วยเหลือด้านคุณภาพชีวิต ของกลุ่มชาติพันธุ์มานิ (โอรังอัสลี) โดยในวันนี้ได้นำกลุ่มซาไกหรืออัสลี จำนวน 12 คนมายืนยันตัวตนในโครงการเราชนะเพื่อรับสิทธิ์ในโครงการดังกล่าว จากจำนวน 22 คนที่ เข้าเกณฑ์รับสิทธิ์ เราชนะ ส่วนที่เหลืออีกจำนวน 10 คนจะมาทำในวันที่ 23ก.พ.นี้เพื่อให้กลุ่มซาไกหรืออัสลีได้รับสิทธิ์เท่าเทียมกับประชาชนชาวไทยที่ได้รับสิทธิ์ในโครงการของรัฐบาล
กลุ่มโอรังอัสรี หรือกลุ่มลาซะ อาศัยอยู่ที่หมู่ 9 บ้านนากอ ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา เป็นชุมชนที่มีสมาชิกจำนวน 50 คน 6 ครัวเรือน ประชากรส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้างถางป่า ถางสวน ตัดหญ้า กรีดยาง ซึ่งบางคนสามารถพูดภาษามาลายูได้คล่องแคล่ว และสามารถพูดภาษาไทยกลางได้ในระดับที่สื่อสารกันได้
สำหรับแนวทางการช่วยเหลือกลุ่มชาติพันธุ์มานิ (โอรังอัสลี) โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการขับเคลื่อน และบริหารจัดการในรูปแบบของนิคมสร้างตนเอง สนับสนุนด้วยการจัดสรรที่ดิน ชั่วคราว ให้สามารถมีพื้นที่ทำกิน เลี้ยงดูตนเองและประชากรในกลุ่มได้ สนับสนุนให้เข้าถึงการบริการของรัฐด้านต่าง ๆ ด้วยการออกบัตรรับรองสถานะเพื่อยืนยันตัวตนชั่วคราว ซึ่งมีจำเป็นอย่างยิ่ง ที่กลุ่มเหล่านี้ควรจะได้รับการดูแลสิทธิและสวัสดิการขั้นพื้นฐาน เพื่อการดำรงชีวิต เช่น การเข้าถึงการศึกษาที่ให้ตรงตามความเหมาะสมของกลุ่ม การเข้าถึงวัคซีนที่จำเป็นแก่เด็ก รวมถึงการบริการด้านสาธารณสุข เป็นต้น
ด้านนายนิค พูดไทยไม่ค่อยชัดเจนได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองดีใจที่ทางอำเภอเบตงและคนในหมู่บ้านต่างช่วยให้ตนเองและลูกเมียรวมทั้งคนในกลุ่มอัสลี ได้มีบัตรประชาชนและมีสัญชาติไทย อย่างเต็มตัว เราสามารถใช้บัตรประชาชนไปแจ้งสิทธิ์ในโครงการของรัฐบาลรวมทั้ง การรักษาสุขภาพร่างกายยามเจ็บปวด
น.ส.บุศริน เถาวัลย์ กล่าวว่า กรมการปกครองได้ตระหนักถึงความสำคัญของการทำบัตรประชาชน กล่าวว่า ให้กับ กลุ่มโอรังอัสรี หรือ ซาไก ในพื้นที่บ้านนากอ เราทำไปแล้วเกือบทั้งหมดที่มีอยู่ที่อาศัยเป็นหลักแหล่ง มีบ้านเป็นของตนเอง มีอาชีพที่แน่นอนอาศัยอยู่กินเป็นครอบครัวเหมือนคนไทยและคนปกติแถมไม่ย้ายถิ่นตามวิถีชีวิตของกลุ่มซาไก ไปตามป่าเขา จึงได้ติดตามให้มารับสิทธิ์ในโครงการเราชนะในวันนี้
ส่วนบรรยากาศที่ธนาคารกรุงไทยในวันนี้ประชาชนมายืนยันตัวตนในโครงการเราชนะไม่มากเหมือนวันปกติ เนื่องจากในวันจันทร์ที่ 22 ก.พ. เป็นต้นไป ประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน สามารถมาลงทะเบียนโครงการ “เราชนะ” ได้ที่ ธ.กรุงไทย ธ.ออมสิน และ ธ.ก.ส. ทุกสาขา โดยนำบัตรประชาชนแบบ Smart card มาดำเนินการ เพื่ออำนวยความสะดวกกลุ่มคนไม่มีสมาร์ทโฟน หลังจากเกิดเหตุมีประชาชนมาลงทะเบียนจนล้นที่ธนาคารกรุงไทย เพื่อลดความแออัด และกระจายความทั่วถึงในการลงทะเบียนโครงการ “เราชนะ”