ดิฉันจะขึ้นแล้วนะคะ ! ‘ปารีณา’ลุกประท้วง’โรม’ แซะ ‘ลุงตู่ -ลุงป้อม’หลับในห้องประชุมเสียดสีใสร้ายขอให้ถอนคำพูด ใครไม่เชื่อฟังไล่ออกนอกห้องไปให้หมด
เมื่อเวลา 11.00น.วันที่ 19 ก.พ.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและมีการพูดถึงบุคคลภายนอกหลายครั้งจนทำให้ นายศุภชัย โพธิ์สุ ประธานสภาผู้แทนคนที่ 2 ในฐานะประธานในที่ประชุม ได้ตักเตือนหากยังอภิปรายถึงบุคคลภายนอกอยู่ จะไม่ให้อภิปรายและขอเข้าประเด็น
กระทั่งน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ลุกขึ้นประท้วง ‘ขอให้ท่านประธานไล่ผู้ที่ไม่เชื่อฟังออกจากห้องประชุมไปให้หมด’ขณะที่นายศุภชัย กล่าวว่า ‘คุณปารีณาไม่ต้องมาบอกประธานนะครับ ประธานมีมาตรการที่จะดำเนินการ สภาจะอยู่ได้ด้วยการประนีประนอม ทำความเข้าใจกันไม่ใช่จะหักหาญกันไปเลย’
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นประท้วงว่า ขอประท้วงท่านประธานวางตัวไม่เป็นกลาง นายรังสิมันต์ ลุกขึ้นอภิปรายพล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร ใช้อำนาจหน้าที่แต่งตั้งโดยไม่ชอบ จำเป็นต้องเอ่ยชื่อบุคคลภายนอก นายศุภชัยได้วินิจฉัยว่า สามารถเอ่ยชื่อบุคคลภายนอกได้เท่าที่จำเป็น ซึ่งอภิปรายปูพื้นมาเกินพอแล้วประธานจะทำผิดข้อบังคับเสียเอง หากถูกฟ้องไม่ใช่ฟ้องเฉพาะผู้อภิปรายแต่ประธานก็จะถูกฟ้องไปด้วย ฉะนั้นขอให้ปฏิบัติตามนี้ หากยังไม่หยุดพูดก็จะขอให้หยุดอภิปรายในประเด็นนี้และนั่งลง
จากนั้นนายรังสิมันต์ ได้อภิปรายพาดพิงถึงพล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตรหลับในห้องประชุมทำให้น.ส.ปารีณา ลุกขึ้นประท้วงอีกครั้งว่านายรังสิมันต์ อภิปรายเสียดสี แต่นายศุภชัย ชี้แจงสวนว่าผู้อภิปรายกำลังจะเข้าเนื้อหาแล้วแต่น.ส.ปารีณา โต้กลับว่าประธานยังได้ไม่ฟังคำประท้วงจะวินิจฉัยได้อย่างไร
"ดิฉันจะประท้วงว่าที่ผู้อภิปรายพูดว่าพล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตรหลับในห้องประชุมเป็นการเสียดสีใส่ร้าย ขอให้บอกผู้อภิปรายถอนคำพูด ขอประท้วงท่านประธานด้วยว่าต้องเป็นกลางกำลังเอาใจฝ่ายค้านอยู่หรือไม่ ดิฉันประท้วงทีไรท่านต่อว่านิดๆหน่อยๆตลอดเลย ฉันจะขึ้นแล้วนะคะ"
นายศุภชัย ตอบกลับว่า อย่าเพิ่งขึ้น ผู้หญิงขึ้นไม่สุภาพ อย่างไรก็ตามนายรังสิมันต์ได้ถอนคำพูดพร้อมระบุว่า เพื่อรักษาบรรยากาศในห้องประชุม
ต่อมาน.ส.ปารีณาได้ลุกขึ้นชี้แจงระบุกรณีที่พูดว่า’ ขึ้น’นั้นหมายถึงของขึ้นภาษาตามบ้านคือโมโห ไม่ได้หมายความถึงเรื่องเพศสภาพขอให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นผู้ชายให้เกียรติสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นผู้หญิงด้วย
กระทั่งน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ลุกขึ้นประท้วง ‘ขอให้ท่านประธานไล่ผู้ที่ไม่เชื่อฟังออกจากห้องประชุมไปให้หมด’ขณะที่นายศุภชัย กล่าวว่า ‘คุณปารีณาไม่ต้องมาบอกประธานนะครับ ประธานมีมาตรการที่จะดำเนินการ สภาจะอยู่ได้ด้วยการประนีประนอม ทำความเข้าใจกันไม่ใช่จะหักหาญกันไปเลย’
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นประท้วงว่า ขอประท้วงท่านประธานวางตัวไม่เป็นกลาง นายรังสิมันต์ ลุกขึ้นอภิปรายพล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร ใช้อำนาจหน้าที่แต่งตั้งโดยไม่ชอบ จำเป็นต้องเอ่ยชื่อบุคคลภายนอก นายศุภชัยได้วินิจฉัยว่า สามารถเอ่ยชื่อบุคคลภายนอกได้เท่าที่จำเป็น ซึ่งอภิปรายปูพื้นมาเกินพอแล้วประธานจะทำผิดข้อบังคับเสียเอง หากถูกฟ้องไม่ใช่ฟ้องเฉพาะผู้อภิปรายแต่ประธานก็จะถูกฟ้องไปด้วย ฉะนั้นขอให้ปฏิบัติตามนี้ หากยังไม่หยุดพูดก็จะขอให้หยุดอภิปรายในประเด็นนี้และนั่งลง
จากนั้นนายรังสิมันต์ ได้อภิปรายพาดพิงถึงพล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตรหลับในห้องประชุมทำให้น.ส.ปารีณา ลุกขึ้นประท้วงอีกครั้งว่านายรังสิมันต์ อภิปรายเสียดสี แต่นายศุภชัย ชี้แจงสวนว่าผู้อภิปรายกำลังจะเข้าเนื้อหาแล้วแต่น.ส.ปารีณา โต้กลับว่าประธานยังได้ไม่ฟังคำประท้วงจะวินิจฉัยได้อย่างไร
"ดิฉันจะประท้วงว่าที่ผู้อภิปรายพูดว่าพล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตรหลับในห้องประชุมเป็นการเสียดสีใส่ร้าย ขอให้บอกผู้อภิปรายถอนคำพูด ขอประท้วงท่านประธานด้วยว่าต้องเป็นกลางกำลังเอาใจฝ่ายค้านอยู่หรือไม่ ดิฉันประท้วงทีไรท่านต่อว่านิดๆหน่อยๆตลอดเลย ฉันจะขึ้นแล้วนะคะ"
นายศุภชัย ตอบกลับว่า อย่าเพิ่งขึ้น ผู้หญิงขึ้นไม่สุภาพ อย่างไรก็ตามนายรังสิมันต์ได้ถอนคำพูดพร้อมระบุว่า เพื่อรักษาบรรยากาศในห้องประชุม
ต่อมาน.ส.ปารีณาได้ลุกขึ้นชี้แจงระบุกรณีที่พูดว่า’ ขึ้น’นั้นหมายถึงของขึ้นภาษาตามบ้านคือโมโห ไม่ได้หมายความถึงเรื่องเพศสภาพขอให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นผู้ชายให้เกียรติสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นผู้หญิงด้วย