เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้สื่อข่าวรายงาน กรณีชาวบ้านลำแก่น หมู่ 3 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เกิดความกังวลหลังจากมีบริษัท ผลิตยางแอสฟัสติกส์ หรือ ยางมะตอย เสนอขออนุญาตประกอบกิจการโรงงาน ซึ่งทาง สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพังงา  ล่าสุด (18 ก.พ.64) ทางนายโกเมน ตันติประวรรณ ผจก.บริษัท มรกต ชุมพรก่อสร้าง จำกัด ได้เข้าชี้แจงพร้อมรับฟังความคิดเห็นชาวบ้านลำแก่น โดยมี น.ส.อุมากร แพใหญ่ กำนันตำบลลำแก่น ผู้ใหญ่บ้าน กรรมการหมู่บ้าน เข้าร่วม ที่บริเวณศาลาเอนกประสงค์บ้านลำแก่น หมู่ 3 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ขณะทางวิศกรบริษัทฯแจ้งทำความเข้าใจกับชาวบ้านพร้อมยืนยันว่า โรงงานยางมะตอยตั้งขึ้นเพื่อเป็นจุดผสมยางแอสฟัสติกส์ ซึ่งอยู่ภายในบริเวณที่ดินทั้งหมดจำนวน 25 ไร่ ทำโรงงานจริงเพียง 3 ไร่ ที่ดินส่วนอื่นเป็นต้นปาล์มน้ำมัน โดยโรงงานจะมีกำแพงล้อมรอบ มีการป้องกันฝุ่น และใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการป้องกันและลดมลพิษที่เกิดขึ้น ส่วนชาวบ้านได้ยกมือสอบถามทางบริษัทฯเป็นช่วงๆเพื่อทำความเข้าที่ตรงกัน สรุปได้ว่าชาวบ้านไม่คัดค้านการประกอบกิจการ แต่เกรงว่าเมื่อมีประกอบกิจการแล้วจะไม่ดูแลรับผิดชอบและป้องกันตามที่ตกลงกันไว้ ก่อนปิดการประชุมทางชาวบ้านขอให้บริษัทได้มีข้อตกลงกับทางหมู่บ้านในการดำเนินการพร้อมช่วยเหลือ แก้ปัญหา หากมีผลกระทบต่อชาวบ้านและประชาชนในพื้นที่ โดยทาง บริษัทฯยืนยันว่าจะตั้งคณะกรรมการจำนวน 5 คน เพื่อเป็นตัวแทนสามารถเสนอปัญหาต่างๆของหมู่บ้านจากผลกระทบของโรงงานที่จะก่อสร้างขึ้น สำหรับพื้นที่ หมู่ 3 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เป็นพื้นที่เดียวที่ทางสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองพังงาสำรวจและผ่านการทำประชาพิจารณ์ จนเป็นพื้นที่อุตสาหกรรม จึงเป็นที่สนใจของนักลงทุนด้านอุตสาหกรรม และมีการติดต่อซื้อที่ดินเพื่อการลงทุนสร้างโรงงานอุตสาหกรรมในขณะนี้                 โดย นายนิยม อุดมคุณ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74/17 หมู่ 3 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง กล่าวว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ได้มีเจตนาคัดค้านการประกอบกิจการโรงงานของบริษัทฯ เพียงแต่มีข้อกังวลว่าเมื่อมีการประกอบกิจการจะส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของชาวบ้านในพื้นที่ จึงต้องการให้มีข้อตกลงไว้ก่อนจะเกิดปัญหาขึ้น                 ทาง น.ส.วนิดา สุวรรณฉิม อายุ 55 ปี เจ้าของทัวร์ ฮอลิเดย์ เซอร์วิส กล่าวว่า ตนเองประกอบกิจการด้านการท่องเที่ยว หากมีโรงงานเกิดขึ้นในพื้นที่จริงจะส่งผลกระทบกับงานบริการด้านการท่องเที่ยวที่ทำอยู่อย่างแน่นอน เนื่องจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่นิยมท่องเที่ยวในเขตอุตสาหกรรม แต่ส่วนตัวไม่ได้คัดค้านกับโรงงานที่จะเกิดขึ้น โดยต้องการให้ทางบริษัทฯสร้างความมั่นใจว่าไม่เกิดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมให้เป็นรูปธรรมมากกว่านี้                 ด้าน นายโกเมน ตันติประวรรณ ผจก.บริษัท มรกต ชุมพรก่อสร้าง จำกัด กล่าวว่า ทางบริษัทฯยินดีที่จะให้ความร่วมมือและไม่ต้องการให้เกิดผลกระทบต่อชาวบ้านในพื้นที่ โดยส่วนของโรงงานนั้นเป็นโรงงานผสมยางแอสฟัสติกส์ รับทำก่อสร้างถนน จะเดินเครื่องเฉพาะที่มีงานเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีออร์เดอร์รับงานในพื้นที่ แต่เมื่อชาวบ้านมีความกังวลทางบริษัทฯยินดีที่จะตั้งคณะกรรมการจากหมู่บ้านเพื่อเป็นตัวแทนในการเสนอปัญหา และ ผลกระทบจากการประกอบกิจการของโรงงาน