สวธ. จุฬาฯ มูลนิธิวิชาหนังสือ ร่วมมือส่งเสริมวัฒนธรรมหนังสือและระบบหนังสือของประเทศไทย
วันที่ 18 ก.พ. 64 นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การส่งเสริมวัฒนธรรมหนังสือและระบบหนังสือของประเทศไทย ระหว่างกรมส่งเสริมวัฒนธรรม มูลนิธิวิชาหนังสือ และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ณ ห้องประชุม ชั้น 8 กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.)
นายอิทธิพล กล่าวว่า วธ.ดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติและมีเป้าหมายสำคัญในการพัฒนาคนในทุกมิติให้มีคุณภาพ หนึ่งในนั้นด้วยการส่งเสริมวัฒนธรรมหนังสือและระบบหนังสือให้เกิดขึ้นในประเทศไทย อันจะส่งผลต่อการพัฒนาสังคมและประเทศชาติโดยรวม
ด้าน นายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม(สวธ.) กล่าวว่า สวธ.ได้ร่วมกับมูลนิธิวิชาหนังสือ และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโดยสถาบันไทยศึกษา จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการส่งเสริมวัฒนธรรมหนังสือและระบบหนังสือของประเทศไทย เพื่อจัดทำแผนพัฒนาวัฒนธรรมหนังสือและระบบหนังสือของประเทศไทย (พ.ศ.2565-2569) ให้ประชาชนทุกคนมีโอกาสเข้าถึงการอ่านหนังสือและสื่อการเรียนรู้ที่ดีมีคุณภาพอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง อีกทั้งเพื่อส่งเสริมรากฐานของวัฒนธรรมหนังสือและระบบหนังสือของประเทศ และกลไกการเผยแพร่หนังสือทุกรูปแบบ โดยมุ่งหวังจะก่อให้เกิดการพัฒนาคนและพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
ด้าน นายมกุฏ อรฤดี เลขานุการมูลนิธิวิชาหนังสือ กล่าวว่า การอ่านหนังสือนับเป็นกิจกรรมอันสำคัญยิ่งของมนุษยชาติ ด้วยหนังสือคือสิ่งจรรโลงมนุษย์ให้พัฒนาขึ้น เป็นเครื่องมือถ่ายทอดความคิดและความบันเทิง หนังสือจึงไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟือยแต่เป็นอาหารสมอง เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ การส่งเสริมวัฒนธรรมหนังสือให้เกิดขึ้นในประเทศไทย สร้างระบบหนังสือและระบบความรู้ให้ประชาชนในประเทศได้มีโอกาสเข้าถึงอย่างเสมอภาค ส่งเสริมให้คนในชาติเห็นคุณค่าของวัฒนธรรมหนังสือ และเพื่อการพัฒนาของเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป อันสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลและยุทธศาสตร์ชาติ
ด้าน ศ.ดร.จักรพันธุ์ สุทธิรัตน์ รองอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า แม้ในยุคสมัยปัจจุบันบทบาทของหนังสือ สิ่งพิมพ์ จะลดลงไป แต่การอ่านยังคงเป็นปัจจัยสำคัญและเป็นกลไกในการขับเคลื่อนพัฒนาการของสังคมไม่ด้อยไปกว่าในอดีต ดังนั้นจุฬาฯ ยินดีให้การสนับสนุนการจัดทำแผนพัฒนาวัฒนธรรมหนังสือและระบบหนังสือของประเทศไทยในครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นส่งผลกระทบในวงกว้างให้วัฒนธรรมหนังสือและระบบหนังสือเกิดขึ้นอย่างแท้จริงในสังคมไทยอย่างเป็นรูปธรรม
ด้าน นายมกุฏ อรฤดี เลขานุการมูลนิธิวิชาหนังสือ กล่าวว่า การอ่านหนังสือนับเป็นกิจกรรมอันสำคัญยิ่งของมนุษยชาติ ด้วยหนังสือคือสิ่งจรรโลงมนุษย์ให้พัฒนาขึ้น เป็นเครื่องมือถ่ายทอดความคิดและความบันเทิง หนังสือจึงไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟือยแต่เป็นอาหารสมอง เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ การส่งเสริมวัฒนธรรมหนังสือให้เกิดขึ้นในประเทศไทย สร้างระบบหนังสือและระบบความรู้ให้ประชาชนในประเทศได้มีโอกาสเข้าถึงอย่างเสมอภาค ส่งเสริมให้คนในชาติเห็นคุณค่าของวัฒนธรรมหนังสือ และเพื่อการพัฒนาของเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป อันสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลและยุทธศาสตร์ชาติ
ด้าน ศ.ดร.จักรพันธุ์ สุทธิรัตน์ รองอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า แม้ในยุคสมัยปัจจุบันบทบาทของหนังสือ สิ่งพิมพ์ จะลดลงไป แต่การอ่านยังคงเป็นปัจจัยสำคัญและเป็นกลไกในการขับเคลื่อนพัฒนาการของสังคมไม่ด้อยไปกว่าในอดีต ดังนั้นจุฬาฯ ยินดีให้การสนับสนุนการจัดทำแผนพัฒนาวัฒนธรรมหนังสือและระบบหนังสือของประเทศไทยในครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นส่งผลกระทบในวงกว้างให้วัฒนธรรมหนังสือและระบบหนังสือเกิดขึ้นอย่างแท้จริงในสังคมไทยอย่างเป็นรูปธรรม