องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี เปิดประชุมสภาฯ สมัยสามัญ สมัยที่ 1 ประจำปี 2564 ด้าน “วิเชียร ขาวขำ “ นายก อบจ.อุดรธานี แถลงนโยบายต่อสภา 18 ด้านที่มุ่งแก้ปัญหาของประชาชน พร้อมเดินหน้าสานงานต่อโครงการต่างๆ โดยนโยบายเร่งด่วนคือ ส่งเสริมอาชีพผู้ตกงาน เนื่องจากโควิด-19 วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี นายชินโชติ ลิ้มธนาคม ประธานสภา อบจ.อุดรธานี เป็นประธานเปิดประชุมสภา อบจ.อุดรธานี สมัยสามัญ สมัยที่ 1 ประจำปี 2564 โดยมีสมาชิกเข้าร่วมครบองค์ประชุม โดย นายวิเชียร ขาวขำ นายก อบจ.อุดรธานี พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ได้แถลงนโยบายต่อสภา นายวิเชียร ขาวขำ นายก อบจ.อุดรธานี กล่าวว่า เพื่อเป็นกรอบและแนวทางการบริหารด้วยเจตนารมณ์ที่มุ่งมั่นสร้างความเจริญให้จังหวัด ตลอดจนนำไปสู่ความร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วนเพื่อประโยชน์สุขของชาวอุดร จึงขอเสนอนโยบายรวม 18 นโยบายและภารกิจ ครอบคลุมในทุกด้าน ซึ่งนโยบายจะสัมฤทธิ์ผลขึ้นอยู่กับงบประมาณถ้ามีเพียงพอ คณะผู้บริหารจะใช้ความรู้ความสามารถและศักยภาพที่มีอยู่ ประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อให้ได้มาซึ่งงบประมาณอุดหนุนต่างๆให้มากที่สุด และความร่วมมือจากสภา อบจ.โดยคณะผู้บริหารขอให้คำมั่นต่อสภาว่า เราจะมุ่งมั่นบริหารงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีประสิทธิภาพ ดำรงความเป็นธรรมในสังคมและภายในองค์กร พร้อมทั้งจะเสริมสร้างความผาสุกให้กับพี่น้องประชาชน ก็หวังจะได้รับความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนแผนงาน โครงการต่างๆ เราจะร่วมกันใช้กลไกของกฎหมาย ระเบียบต่างๆ ร่วมกันทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนของเราให้ได้รับประโยชน์สูงสุดด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ นายวิเชียร ขาวขำ นายก อบจ.อุดรธานี กล่าวต่อว่า จะดำเนินงานตามนโยบายที่ทำไว้อย่างต่อเนื่อง เช่น หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย ที่ได้ตั้งงบประมาณไว้แล้ว โครงการล่องเรือตามลำห้วยหลวง ก็จะเดินหน้าต่อ ในเรื่องการส่งเสริมอาชีพนั้น ขณะนี้ต้องยอมรับว่าสถานการณ์โควิด-19 ทำให้พี่น้องประชาชนตกงานกันเยอะมาก ก็จะได้ไปหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีว่าการ MOU หรือการบูรณาการกับหน่วยงาน เช่น เกษตร ,พัฒนาการจังหวัด จะเริ่มทำอาชีพอะไรบ้าง ซึ่ง อบจ.อุดรธานี ตั้งใจจะส่งเสริมด้านการเกษตรภาคการผลิต ที่พี่น้องมีปัจจัยการผลิต อบจ.อุดรธานี จะจัดหาเมล็ดพันธุ์ต่างๆให้ จะเป็นการลดต้นทุนให้กับประชาชน เพราะประชาชนเดือดร้อนค้าขายไม่ได้ อย่างน้อยๆ ก็ปลูกได้กินด้วย และเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ทำเยอะอยู่แล้ว ปีหนึ่งประมาณ เกือบ 400 ล้าน การทำโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่วางแผนไว้ เสร็จประมาณ 1-2 ปี ถึงเวลานั้นคิดว่าโควิด-19 คงซาไปแล้ว อย่างทะเลบัวแดงปีนี้ อากาศหนาว ดอกบัวบานเยอะมากแต่ไม่มีใครมาเที่ยว เพราะมีปัญหาเรื่องการเดินทาง เรื่องการศึกษาการกีฬาก็จะทำอย่างต่อเนื่อง เราทำมาเป็นแนวทางอยู่แล้ว รักษามาตรฐานเมืองกีฬาของเราไว้ ส่วนนโยบายเร่งด่วนก็จะเป็นเรื่องส่งเสริมอาชีพ เดิมแจกพันธุ์ผักไม่ได้ แต่มีหนังสือสั่งการของรัฐบาลในยุคนี้เราสามารถสนับสนุนปัจจัยการผลิตด้านการเกษตรได้ เป็นส่วนหนึ่งที่จะรีบทำเลย และต้นฤดูฝนก็จะปล่อยปลาตามหนองน้ำสาธารณะ ห้วย หนอง คลอง บึง ให้พี่น้องประชาชนได้กิน เป็นการลดต้นทุน ลดรายจ่ายให้กับพี่น้องประชาชน และโรงเรียนในสังกัด อบจ.อุดรธานี ขณะนี้ก็ทำโครงการเศรษฐกิจพอเพียง เด็กได้กินไข่ ผัก ปลา แล้ว และยังนำกลับให้ผู้ปกครองด้วย ก็อยากให้โรงเรียนอื่นๆ ในหมู่บ้านทำแบบนี้ จากนั้น สมาชิกสภาองค์การบริหารจังหวัด ได้แสดงความยินดีกับ นายก อบจ.อุดรธานี และเสนอความคิดเห็นโครงการต่างๆ โดยเฉพาะการย้ายเรือนจำกลางอุดรธานี ออกจากที่ชุมชน การส่งเสริมการศึกษา ส่งเสริมอาชีพ การสร้างถนนหนทาง และพร้อมที่จะให้การสนับสนุนการดำเนินงานตามวิสัยทัศน์ “อบจ.อุดรธานี ยุคใหม่ ห่วงใย ใกล้ชิดประชาชน”.