นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการเข้าร่วมโครงการเราชนะ (โครงการฯ) ของกลุ่มประชาชนที่อยู่ในฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ว่า มีผู้ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการฯ ผ่านแถบ (Banner) โครงการ "เราชนะ" ในแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" แล้ว จำนวน 10,544,909 คน (ข้อมูล ณ เวลา 17.00 น.) อย่างไรก็ดี เนื่องจากมีผู้ประสงค์ยืนยันตัวตนเข้าโครงการฯ ผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" จำนวนมากจนส่งผลกระทบต่อระบบของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทย) ธนาคารกรุงไทยจึงปิดระบบดังกล่าวชั่วคราวจนถึงเวลา 20.00 น. และขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ประชาชนสามารถทยอยดำเนินการยืนยันตัวตนได้ และจะได้รับวงเงินสิทธิ์ภายหลังจากการยืนยันตัวตน โดยจะได้รับวงเงินสิทธิ์เพิ่มเป็นรายสัปดาห์ทุกวันพฤหัสบดีจนวงเงินสิทธิ์ครบ 7,000 บาท ทั้งนี้ สามารถสะสมวงเงินสิทธิ์และใช้จ่ายเพื่อชำระค่าสินค้าและบริการที่ร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน "ถุงเงิน" ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงผู้ประกอบการ/ร้านค้าและบริการรายย่อยที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 นอกจากนี้ขอเน้นย้ำถึงการเปิดจุดรับลงทะเบียน ณ สาขาหรือจุดบริการเคลื่อนที่ของธนาคารกรุงไทย ระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ – 5 มีนาคม 2564 เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เช่น ไม่สามารถเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ต ไม่มีสมาร์ทโฟนทำให้ไม่สามารถใช้งานแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" ได้ หรือผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง รวมถึงผู้ที่ลงทะเบียนด้วยตนเองไม่สำเร็จ เนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลไม่ถูกต้อง โดยจากข้อมูลล่าสุดมีประชาชนกลุ่มดังกล่าวลงทะเบียนผ่านสาขาหรือจุดบริการเคลื่อนที่ของธนาคารกรุงไทยแล้ว จำนวน 455,354 คน (ข้อมูล ณ เวลา 17.00น.) และกระทรวงการคลังจะมีการเปิดจุดรับลงทะเบียนโครงการฯ ผ่านสาขาของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารออมสิน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนกลุ่มดังกล่าวเพิ่มเติม ทั้งนี้กระทรวงการคลังได้ขอความร่วมมือจากหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ดำเนินการร่วมกับธนาคารทั้ง 3 แห่ง เพื่ออำนวยความสะดวกในการลงพื้นที่รับลงทะเบียนให้แก่ประชาชนกลุ่มดังกล่าว นางสาวกุลยา กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมากระทรวงการคลังพบว่ามีข่าวปลอม (Fake News) จากสังคมออนไลน์ (Social Media) เกี่ยวกับโครงการฯ ถูกเผยแพร่ออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งกระทรวงการคลังได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวมาโดยตลอด ดังนั้น เพื่อให้ประชาชนเกิดความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับข้อเท็จจริงของโครงการฯ โปรดอย่าหลงเชื่อข่าวปลอมจากช่องทางดังกล่าว และขอความร่วมมือประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารของโครงการฯ จากช่องทางการสื่อสารที่เป็นทางการจากทางราชการ ได้แก่ www.เราชนะ.com www.mof.go.th www.fpo.go.th และ Facebook Fanpage “สถานีข่าวกระทรวงการคลัง” และ “สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง: Fiscal Policy Office”