ต่อมาเวลา 18.35 น. นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ชี้แจงกรณีที่ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล กล่าวหาแต่งตั้งพรรคพวกตัวเองว่า ข้อกล่าวหาของตนได้ส่งให้แม่ดูว่าถ้าเลวกันขนาดนี้ก็ไม่ต้องเป็นแม่เป็นลูกกัน ถ้ากล่าวหาร้ายแรงแบบนี้ก็ต้องเปิดโอกาสให้อธิบายด้วย ช่วงปีครึ่งที่ผ่านมาตนไปโรงเรียนกว่า 50 จังหวัด โดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้าเพื่อจะได้ทราบปัญหา ไม่ได้ไปเฉพาะโรงเรียนใหญ่ ได้เห็นปัญหาของการศึกษาไทยว่ามีความซับซ้อน ฝังรากลึก แต่เราอย่ามองว่าด้อยค่าการศึกษาไทย เพราะตนมีความหวังและมั่นใจว่าภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี เราสามาราถขับเคลื่อนการกระทรวงศึกษาและการศึกษาไทยไปได้ ที่ผ่านมาทุกรัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาการศึกษา แต่ไม่สามารถเปลี่ยนระบบการศึกษาของไทยได้ ตนรับทราบปัญหาดีไม่เคยหลบหนีปัญหาของน้องๆนักเรียน ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหา นำข้อเรียกร้องของนักเรียน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทรงผมและเครื่องแต่งกาย มีการเชิญกลุ่มนักเรียนเลวมาร่วมรับฟังด้วย
รมว.ศึกษา กล่าวว่า สำหรับเรื่องกองทุนเพื่อความเสมอภาค หน่วยงานนี้มีบอร์ดทำงานอิสระขึ้นตรงต่อนายกฯไม่ใช่หน่วยงานภายใต้กำกับกระทรวงศึกษา หน่วยงานนี้สมควรได้รับงบประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาทต่อปี เพราะว่ามีนักเรียนยากจน ตนมั่นใจว่าเด็กๆไม่ได้รับการดูแลจะได้รับการดูแลอย่างแน่นอน แต่ต้องใช้เวลา 3-4 ปี หากเราร่วมกันทั้งสภาฯช่วยวางแผนทำให้การศึกษาเป็นวาระแห่งชาติ เราพลิกการศึกษาไทยได้แน่นอน