เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 ที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี เปิดเผยว่า ขณะที่นายพนัชกร โพธิบัณฑิต ผอ.ส่วนยุทธการป้องกันและปราบปราม สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า น.ส.เนตรนภา งามเนตร หัวหน้าวนอุทยานฯเขานางพันธุรัต ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ส่วนยุทธการป้องกันปราบปราม เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ที่ กจ.6 (เขามะเร็ว) ตั้งจุดตรวจจุดสกัดปฏิบัติหน้าที่ป้องกันปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ รวมทั้งตรวจคัดกรอง และลงชื่อผู้ผ่านเข้าออกตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคไวรัสโควิด-19 บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ที่ กจ.6 เขามะเร็ว หมู่ 3 ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี พบรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิไตรตัน สีเทา ทะเบียน บม 2931 วิ่งมุ่งหน้าเข้าหมู่บ้านบางกลอย จึงส่งสัญญาณให้หยุดเพื่อตรวจสอบ พบนายตรีภพ ปานดุก อายุ 32 ปี เป็นผู้ขับขี่ และภายในรถพบกระเหรี่ยงชาวบ้านบางกลอยทั้งชาย-หญิง รวม 5คน ที่บริเวณด้านหลังกระบะรถบรรทุกกระสอบข้าวสาร อาหารแห้งจำนวนมาก ซึ่งนายตรีภพอ้างว่าจะนำข้าวสารอาหารแห้งไปส่งที่ธนาคารข้าวของหมู่บ้านบางกลอย เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้นท้ายกระบะที่บรรทุกสิ่งของอย่างละเอียดพบลูกตะกั่วกลมใช้ทำหัวกระสุนหลายขนาดที่ใช้กับอาวุธปืนแก๊ปยาว มีทั้งขนาดเดียวกับกระสุนลูกซองเบอร์ 1 และเท่ากับขนาดกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวนนับหมื่นเม็ดบรรจุอยู่ในถุงปุ๋ยสีขาว จำนวน 3 ถุง น้ำหนักกว่า 6 กก. พร้อมทั้งดินประสิวที่เป็นส่วนผสมทำดินปืนบรรจุในถุงปุ๋ยอีกจำนวน 5 ถุง น้ำหนัก 2.5 กก. ต่อมาได้มีกลุ่มชาวบ้านกระเหรี่ยงจำนวน 14 คน เดินทางมาร่วมตัวที่บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ กจ.6 (เขามะเร็ว) ต.ห้วยแม่เพรียง พร้อมถือป้ายประท้วงขอให้เจ้าหน้าที่ยุติการสกัดการขนส่งเสบียง รวมถึงการตั้งจุดสกัดเดิม และที่จุดเพิ่มเติมขึ้นมาทั้งหมดในพื้นที่อุทยานฯ โดยชาวกระเหรี่ยงอ้างบันทึกข้อตกลงเพื่อแก้ไขปัญหากรณีบางกลอย ใจแผ่นดิน ระหว่างตัวแทนรัฐบาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ภาคี SAVE บางกลอย และชาวกะเหรี่ยงบางกลอย ใน 6 ข้อเรียกร้องตามบันทึกข้อตกลง เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานจึงได้ชี้แจงกับชาวบ้านว่า บริเวณดังกล่าว เป็นด่านตรวจถาวรของอุทยานฯ ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามภารกิจปกติ เนื่องจากมีการประกาศปิดการท่องเที่ยว ตามมาตราการป้องกันโรค โควิท-19 ที่บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ กจ.10 (มะเร็ว) จึงต้องมีการตรวจคัดกรอง และลงชื่อผู้ผ่านเข้าออก พร้อมทำความเข้าใจกับกลุ่มชาวบ้านดังกล่าว ถึงแนวทางการปฏิบัติ โดยกลุ่มชาวบ้านยินดี และยินยอมปฏิบัติตามกฎระเบียบ และแนวทางปฏิบัติของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานก่อนแยกย้ายกันกับไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำบันทึกประวัตินายตรีภพไว้ก่อนปล่อยตัวไป พร้อมตรวจยึดของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจาน เพื่อให้ตรวจสอบของกลางว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าเข้าข่ายผิดกฎหมายจะเรียกตัว นายตรีภพ มาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป