เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการอภิปรายในวันที่ 17 ก.พ. ซึ่งเป็นวันที่​ 2​ ของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า การอภิปรายวันแรกเป็นการนำร่องพูดถึงความล้มเหลว เป็นเชิงนามธรรมทั้งเรื่องเศรษฐกิจ สังคม ต่อมาการอภิปรายวันที่สองเป็นเนื้อหาที่จับต้องได้ คือเรื่องทุจริต​ และช่วงกลางคืนเข้าสู่การอภิปรายของกระทรวงมหาดไทย ที่ชี้ชัดความบกพร่องอย่างชัดเจนและการอภิปราย​ วันที่สามนี้เริ่มเป็นเรื่องทุจริตเป็นราย​ กรณีทั้งกระทรวงคมนาคมและกระทรวงพาณิชย์ที่มีหลายเรื่องชี้ชัดในรายละเอียด  และในวันสุดท้ายจะปิดที่การอภิปรายของกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง​ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ทั้งนี้​ ภาพรวมเป็นไปอย่างที่วางแผนไว้ ถือเป็นเรื่องน่าพอใจ เริ่มด้วยนำร่อง เข้าถล่ม และวันสุดท้ายจะได้สำเร็จตามเป้าหมาย การบริหารเวลาของฝ่านค้านถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์และมั่นใจว่าเวลาจะจบตามกำหนด ขึ้นอยู่ที่รัฐบาลถ้าประท้วงหรือตอบยาวเวลาก็จะไปอยู่ตรงนั้น ตอนนี้ยังเชื่อว่าอภิปรายจบวันศุกร์ที่ 19 ก.พ.และโหวตวันเสาร์ที่ 20 ก.พ. เมื่อถามถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ​ จะยื่นฟ้องนายสุทินจากการอภิปรายพาดพิงเรื่องโครงการก่อสร้างทางรถไฟยกระดับและถนนยกระดับในเขตกรุงเทพมหานคร หรือ โฮปเวลล์ นายสุทิน กล่าวว่า เป็นธรรมดา การเป็นฝ่ายค้านเมื่อทำงานเราทำใจอยู่แล้ว ว่าจะต้องมีคนได้รับผลกระทบและต้องใช้สิทธิฟ้อง เมื่อนายสุเทพคิดว่าเสียหายก็เป็นสิทธิของเขา ส่วนตนจะต้องชี้แจงต่อศาลว่าหน้าที่คืออะไร ได้ทำไปตามกรอบกฎหมายหรือไม่ มีเจตนาที่จะปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติในส่วนรวมหรือไม่ เรื่องนี้ไม่วิตกเพราะต่างคนต่างทำหน้าที่ และถือเป็นครั้งแรกของตนที่ถูกฟ้องร้อง เพราะปกติพูดในสภาก็ไม่มีคนประท้วง เมื่อ​ถามถึงการประชุมวิปสามฝ่ายในวันนี้จะหารือในประเด็นเรื่องการโหวตด้วยหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า การหารือในวันนี้เพื่อวางแผนประชุมในสัปดาห์หน้า ที่จะเป็นการประชุมร่วมรัฐสภาพิจารณาในเรื่องใหญ่ เช่น ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 2  ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจแห่งชาติ