นายสุพจน์ อาวาส โฆษกพรรคประชาชาติ ระบุว่า กรมสรรพากรได้เคยมีคำสั่งที่ ป. 23/2534 วินิจฉัยเกี่ยวกับการได้รับประโยชน์จากค่าน้ำประปาและค่าไฟฟ้า เทียบเคียงกับเรื่องการกำหนดมูลค่าของการได้อยู่บ้านที่นายจ้างให้อยู่โดยไม่เสียค่าเช่า ถือเป็นเงินได้พึงประเมิน ความโดยสรุปว่า ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ที่นายจ้างจ่ายให้เป็นประโยชน์ที่พนักงานผู้นั้นได้รับทั้งสิ้น ต้องนำประโยชน์ที่ได้รับทั้งหมดมาคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาด้วย ดังนั้นกรมสรรพากรจะต้องตรวจสอบว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งอยู่บ้านเลขที่ 702 หรือบ้านพักหลังอื่นๆ ที่หน่วยงานของรัฐได้จ่ายค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ให้ตลอดช่วงที่พักอาศัย มีการนำค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ซึ่งเป็นประโยชน์ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับมายื่นประเมินเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามประมวลรัษฎากรมาตรา 39 และ 40 หรือไม่
นายสุพจน์ กล่าวว่า ทั้งนี้ต้องตรวจสอบตั้งแต่วันที่พล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หากไม่มีการนำค่าน้ำประปา และค่าไฟฟ้า มารวมคำนวณเพื่อเสียภาษี กรมสรรพากรจะดำเนินการอย่างไร หากเพิกเฉยละเลย กรมสรรพากร จะตกเป็นผู้เข้าข่ายเลือกปฏิบัติหรือบกพร่อง หรือไม่ตรวจสอบ หรือจงใจให้มีการเลี่ยงภาษี อันเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตาม มาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญาหรือไม่กรมสรรพากร ต้องตอบโจทย์ปัญหานี้ให้กับสังคมได้รับทราบ