"ทีมสธ." ตั้งโต๊ะแถลงทันควัน! โต้ ส.ส. ก้าวไกล ปมซักฟอกวัคซีน "ผอ.สถาบันวัคซีน" กางเอกสารบริษัทแอตราเซเนก้าเลือกไทย เป็น 1 ใน 60 บริษัททั่วโลกร่วมผลิต ขณะที่ "วิโรจน์" บุกห้องแถลง จดยิบขอฟังด้วยตัวเอง
เมื่อวันที่ 17 ก.พ. ที่รัฐสภา นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และ นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ แถลงข่าวชี้แจงกรณีวัคซีน หลังจากที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.ก้าวไกล อภิปราย
โดยปลัดสธ. กล่าวยืนยันว่า ประเทศไทย เตรียมวัคซีนให้ครอบคลุม และได้สั่งจองไว้ถึง 63 ล้านโดส ที่จะฉีดให้ครบทั่วประเทศภายในปีนี้
ขณะที่ผอ.สถาบันวัคซีน นำเอกสาร ซึ่งเป็นจดหมายจากบริษัทแอตราเซเนก้า ที่ประเมินความสามารถการผลิตวัคซีน และเลือกไทยเป็นหนึ่งใน 60 บริษัททั่วโลกร่วมผลิต พร้อมยืนยันได้ว่าวัคซีนจากบริษัทแอตราเซเนก้ามีความเท่าเทียมกับวัคซีนยี่ห้ออื่น และยืนยันได้ว่า ประเทศไทยมีศักยภาพไม่แพ้ชาติใดในโลก และเราไม่จำเป็นต้องมีวัคซีนจากหลายบริษัท แต่ขอให้มีมากพอกับจำนวนคนในประเทศ โดย ผอ.สถาบันวัคซีน ระบุถึงเรื่องความเสี่ยงที่ต้องฉีดให้กับบุคคลสูงอายุว่ายึดตามหลักขององค์การอนามัยโลก ที่มีผลวิจัยยืนยันว่า วัคซีนแอตราเซเนก้าเหมาะกับผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ซึ่งไทยยึดผลการวิจัยของหน่วยงานที่เป็นกลาง ที่ได้รับการยอมรับในสากลเท่านั้น
ด้านอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ภาพรวมการฉีควัคซีนให้แผนระยะที่ 2-3 ปรับรวมทำให้เร็วขึ้นได้ ระยะแรก วัคซีนเชื้อตายจากประเทศจีน จะมาภายในเดือนกุมภาพันธ์ และจะฉีดให้กับประชาชนในประเทศไทยทันที โดยกลุ่มแรกที่ฉีด จะเป็นพื้นที่เสี่ยง คือ สมุทรสาคร กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล อาชีพเสี่ยง เช่น บุคคลากรทางการแพทย์ ยืนยันประเทศไทย ยังควบคุมโรคได้ดี และการแพร่เชื้อของโรคต่ำกว่าหลายๆ ประเทศ แต่ก็ยังคงต้องการวัคซีน เพื่อให้เกิดการคุ้มกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ ทีมสาธารณสุข ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวตอบโต้ฝ่ายค้าน ประเด็นการจัดซื้อวัคซีน ภายในอาคารรัฐสภา ห้อง 203 นั้น นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส. พรรคก้าวไกล ที่เป็นผู้อภิปรายไม่ไว้วางใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มาสังเกตการณ์ และจดข้อมูล ถึงภายในห้องที่ใช้แถลงข่าว