กองทัพเรือเปิดโครงการศูนย์การเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ “โคก หนอง นา กองทัพเรือ”
พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ และนางจุฬารัตน์ ศรีวรขาน นายกสมาคมภริยาทหารเรือ เป็นประธานเปิดโครงการศูนย์การเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ “โคก หนอง นา กองทัพเรือ” ณ ศูนย์การฝึก หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ตำบลเกล็ดแก้ว อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 โดยมีศูนย์การเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ “โคก หนอง นา กองทัพเรือ” ในพื้นที่รับผิดชอบอื่นๆ ของกองทัพเรือ ร่วมเปิดโครงการพร้อมกันผ่านการถ่ายทอดในระบบการประชุมทางไกล
เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (ในหลวงรัชกาลที่ 9) และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรความเป็นอยู่ของราษฎรทั่วประเทศโดยเฉพาะในพื้นที่ทุรกันดาร จากสายพระเนตรอันกว้างไกลได้พระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตการเกษตร และปศุสัตว์ การเข้าถึงแหล่งความรู้ด้านวิชาการเกษตรสมัยใหม่ ให้สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตได้อย่างมีประสิทธิผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรงเน้นเรื่องการค้นคว้าทดลองและวิจัย เพื่อแนะนำให้เกษตรกรนำไปประยุกต์ใช้และปฏิบัติซึ่งใช้เทคโนโลยีที่ไม่ซับซ้อน ประหยัด เหมาะสมกับสภาพสังคม และสภาพแวดล้อมของท้องถิ่นนั้นๆ โดยมีพระราชประสงค์เพื่อให้เกษตรกรสามารถพึ่งพาตนเอง จึงได้เกิดโครงการตามพระราชดำริต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” อันเป็นการจัดการและอนุรักษ์ ดิน น้ำ ป่า ทรงศึกษา คิดค้น และวิจัย แล้วพระราชทานให้แก่พสกนิกรชาวไทย เพื่อใช้ในการจัดการลุ่มน้ำ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ สู่ปลายน้ำ จากภูผาสู่มหานที
เมื่อนำองค์ความรู้นี้มาปฏิบัติตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ จะนำไปสู่การพึ่งพาตนเองและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งนี้กองทัพเรือได้น้อมนำแนวทางตามพระราชดำริมาดำเนินการในการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน แก่หน่วยงานต่างๆ ของกองทัพเรือ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้กำลังพลและครอบครัวของกองทัพเรือ ตลอดจนประชาชนได้เข้ามาศึกษาและเรียนรู้ในศูนย์การเรียนรู้ดังกล่าว เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประสิทธิผล
สำหรับโครงการศูนย์การเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ “โคก หนอง นา กองทัพเรือ” นั้น กองทัพเรือได้ดำเนินการโดยน้อมนำเกษตรทฤษฎีใหม่ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาประยุกต์เป็นต้นแบบ ให้กำลังพลกองทัพเรือและครอบครัว ตลอดจนประชาชนทั่วไป ใช้เป็นแนวทางในการดำรงชีวิตแบบพึ่งพาตนเอง สอดคล้องกับพระปฐมบรมราชโองการของ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชปณิธานของในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยปัจจุบันพื้นที่ศูนย์การเรียนรู้ฯ ของกองทัพเรือ มีจำนวน 7 พื้นที่ จาก 10 หน่วยงาน ประกอบด้วย
- พื้นที่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 2 หน่วยงาน คือ ฐานทัพเรือกรุงเทพ และกรมยุทธศึกษาทหารเรือ (อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม)
- พื้นที่ จังหวัดชลบุรี จำนวน 3 หน่วยงาน คือ กองเรือยุทธการ ฐานทัพเรือสัตหีบ และหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (อำเภอสัตหีบ)
- พื้นที่ จังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 1 หน่วยงาน คือ กรมสวัสดิการทหารเรือ (อำเภอบางน้ำเปรี้ยว)
- พื้นที่ จังหวัดตราด จำนวน 1 หน่วยงาน คือ ทัพเรือภาคที่ 1 (อำเภอแหลมงอบ)
- พื้นที่ จังหวัดสงขลา จำนวน 1 หน่วยงาน คือ ทัพเรือภาคที่ 2 (อำเภอเมืองสงขลา)
- พื้นที่ จังหวัดพังงา จำนวน 1 หน่วยงาน คือ ทัพเรือภาคที่ 3 (อำเภอท้ายเหมือง)
- พื้นที่ จังหวัดจันทบุรี จำนวน 1 หน่วยงาน คือ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน (อำเภอโป่งน้ำร้อน)
โครงการศูนย์การเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ “โคก หนอง นา กองทัพเรือ” ได้ดำเนินการตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 เป็นต้นมา มีการปฏิบัติที่สำคัญ ได้แก่ การให้ความรู้การทำเกษตรทฤษฎีใหม่ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยแบ่งออกเป็นฐานการเรียนรู้ต่างๆ เช่น ฐานการปลูกต้นไม้ ฐานการปลูกมะนาวในบ่อวงซีเมนต์ ฐานการเลี้ยงปลา ฐานการเลี้ยงกบ ฐานการปลูกผักสวนครัวรั้วกินได้ ฐานการเลี้ยงหมู ฐานการทำปุ๋ยหมัก ฐานการเลี้ยงไก่ และฐานการปลูกอ้อยเป็นต้น ซึ่งปัจจุบันศูนย์การเรียนรู้ต่างๆ ของกองทัพเรือ มีความพร้อมในระดับ “ก้าวหน้า” สามารถประชาสัมพันธ์ให้กำลังพล ครอบครัว และประชาชนทั่วไปสามารถเข้าเยี่ยมชมโครงการ เพื่อศึกษาและนำไปใช้เป็นแนวทางการดำรงชีวิตแบบพึ่งพาตนเอง ตามวัตถุประสงค์ของโครงการต่อไป
อนึ่ง โคก หนอง นา โมเดล คือ การจัดการพื้นที่ ซึ่งเหมาะกับพื้นที่การเกษตร ที่เป็นการผสมผสานเกษตรทฤษฎีใหม่เข้ากับภูมิปัญญาพื้นบ้านที่อยู่อย่างสอดคล้องกับธรรมชาติในพื้นที่นั้นๆ โคก - หนอง - นา โมเดล เป็นการให้ธรรมชาติจัดการตัวมันเอง โดยมีมนุษย์เป็นส่วนส่งเสริมให้มันสำเร็จเร็วขึ้นอย่างเป็นระบบ ซึ่งโคก - หนอง - นา โมเดล เป็นแนวทางการทำเกษตรอินทรีย์และการสร้างชีวิตที่ยั่งยืน โดยมีองค์ประกอบดังนี้
1. โคก : พื้นที่สูง ดินที่ขุดทำหนองน้ำนั้นให้นำมาทำโคก บนโคกปลูก “ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง” ตามแนวทางพระราชดำริ / ปลูกพืช ผัก สวนครัว เลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา ทำให้พออยู่ พอกิน พอใช้ พอร่มเย็น เป็นเศรษฐกิจพอเพียงขั้นพื้นฐาน ก่อนเข้าสู่ขั้นก้าวหน้า คือ ทำบุญ ทำทาน เก็บรักษา ค้าขาย และเชื่อมโยงเป็นเครือข่าย / ปลูกที่อยู่อาศัยให้สอดคล้องกับสภาพภูมิประเทศ และภูมิอากาศ
2. หนอง : หนองน้ำหรือแหล่งน้ำ ขุดหนองเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ยามหน้าแล้งหรือจำเป็น และเป็นที่รับน้ำยามน้ำท่วม (หลุมขนมครก) / ขุด “คลองไส้ไก่” หรือคลองระบายน้ำรอบพื้นที่ตามภูมิปัญญาชาวบ้าน โดยขุดให้คดเคี้ยวไปตามพื้นที่เพื่อให้น้ำกระจายเต็มพื้นที่เพิ่มความชุ่มชื้น ลดพลังงานในการรดน้ำต้นไม้ / ทำฝายทดน้ำ เพื่อเก็บน้ำเข้าไว้ในพื้นที่ให้มากที่สุด โดยเฉพาะเมื่อพื้นที่โดยรอบไม่มีการกักเก็บน้ำ น้ำจะหลากลงมายังหนองน้ำ และคลองไส้ไก่ ให้ทำฝายทดน้ำเก็บไว้ใช้ยามหน้าแล้ง / พัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ ทั้งการขุดลอก หนอง คู คลอง เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ยามหน้าแล้ง และเพิ่มการระบายน้ำยามน้ำหลาก
3. นา : พื้นที่นานั้นให้ปลูกข้าวอินทรีย์พื้นบ้าน โดยเริ่มจากการฟื้นฟูดิน ด้วยการทำเกษตรอินทรีย์ยั่งยืน คืนชีวิตเล็ก ๆ หรือจุลินทรีย์กลับคืนแผ่นดินใช้การควบคุมปริมาณน้ำในนาเพื่อคุมหญ้า ทำให้ปลอดสารเคมีได้ ปลอดภัยทั้งคนปลูก คนกิน / ยกคันนาให้มีความสูงและกว้าง เพื่อใช้เป็นที่รับน้ำยามน้ำท่วม ปลูกพืชอาหารตามคันนา
ที่มา: กองประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ








