วันที่ 16 ก.พ. 2564 เวลา 13.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า แกนนำและแนวร่วมกลุ่มภาคีเครือข่ายเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์เดินทางมาร่วมชุมนุมที่หน้ารัฐสภา เพื่อยื่นหนังสือถึงประธานรัฐสภาแสดงความกังวลในประเด็นญัตติที่ฝ่ายค้านนำเสนอเรื่อง การแก้ไขข้อกฎหมาย มาตรา112 ซึ่งเป็นมาตราที่นำไว้จัดการผู้ที่ก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์
ทั้งนี้ นายพานสุวรรณ ณแก้ว แกนนำเครือข่าย กล่าวว่า การที่ฝ่ายค้านต้องการแก้ไขกฎหมายในมาตรา 112 ถือว่าเป็นการเดินผิดทาง เพราะการคงอยู่ของกฎหมายนี้เพื่อเป็นการไปปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ บทลงโทษของผู้ที่ล่วงเกินจึงเป็นเรื่องที่สมควรแล้วประชาชนในประเทศส่วนมาก ไม่ได้เดือดร้อน
ซึ่งการที่กลุ่ม ราษฎรออกมา เรียกร้องหลังจากถูกมาตรการ 112 จัดการ ล้วนแล้วแต่เริ่มมาจากการจาบจ้วงใช้ความรุนแรงต่อสถาบันพระมหากษัตริย์จนรัฐบาลต้องใช้กฎหมายข้อนี้จัดการฉะนั้นแล้วกฎหมายมาตรา 112 เป็นเหมือนกฎหมายของหลายๆประเทศที่จะต้องคงอยู่ไว้เพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
นายพานสุวรรณ ยังกล่าวต่ออีกว่า พรรคก้าวไกลไม่มีประสบการณ์ในการบริหารประเทศอาศัยเพียงแรงขับเคลื่อนของกลุ่มมวลชนที่เป็นคนรุ่นใหม่ออกมาเรียกร้อง ในความเป็นจริงแล้ว กลุ่มภาคีไม่จำเป็นต้องออกมาแต่เพราะที่ผ่านมามอบต่างๆ ซ้ำเติมประเทศด้วยการเคลื่อนไหวจึงจำเป็นต้องออกมา
ภายหลังที่แกนนำภาคีได้อ่าน แถลงการณ์เสร็จนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เป็นตัวแทนออกมารับหนังสือเพื่อส่งต่อถึงประธานรัฐสภาที่ขณะนี้กำลังดำเนินการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลอยู่ภายในรัฐสภา และหลังการยื่นหนังสือของกลุ่มผู้ชุมนุมภาคีเครือข่ายเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์สลายได้สลายการชุมนุมในเวลา 13.50 น.