วันที่ 16 กุมภาพันธ์ นางสำเภา บุญนุช อายุ 83 ปี อาชีพผลิตไม้กวาดทางมะพร้าว ชาว ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า เดินทางมาคนเดียวจากบ้านพักใกล้ อบต.เกาะหลัก เพื่อไปลงทะเบียนโครงการเราชนะที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ เนื่องจากไม่มีโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน โดยเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกและให้บริการเป็นอย่างดีและแนะนำวิธีการใช้สิทธิจากบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ดโดยใช้รหัส 6 หลักเพื่อป้องกันการสวมสิทธิ และหากได้รับสิทธิจะนำไปเก็บไว้เพื่อซื้อสิ่งของจำเป็น ขณะที่ปัจจุบันอาศัยอยู่กับน้องสาว ส่วนบุตร 3 คนไปทำงานที่ อ.ปราณบุรี
นางสาววาริชา สุนทโรวิทย์ เจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทย สาขา อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า การลงทะเบียนที่หอประชุมอำเภอเมืองฯมีผู้ใช้สิทธิเพียง 200 ราย คาดว่าจะเสร็จสิ้นไม่เกิน 17.00 น. สำหรับนางสำเภา หลังจากลงทะเบียนตามขั้นตอนที่กำหนด ได้มอบเงินสดส่วนตัว 200 บาท พร้อมติดต่อวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างเพื่อไปส่งที่บ้านพัก เนื่องจากเป็นผู้สูงอายุและไม่มีญาติเดินทางมารับกลับ
นายประมวล พงศ์ถาวราเดช สส.ประจวบคีรีขันธ์ เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หลังจากมีประชานจำนวนมากจาก 3 อำเภอโซนใต้ของจังหวัดเดินทางไปลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ เราชนะ ที่ธนาคารกรุงไทย สาขา อ.บางสะพาน ทำให้ประชาชน อ.ทับสะแก อ.บางสะพานและ อ.บางสะพานน้อยได้รับความเดือดร้อน ล่าสุดได้ประสานไปยังนายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ขอให้ส่งเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทย จาก อ.เมืองหรือ จ.เพชรบุรี รองรับการลงทะเบียนเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน และหลังจากมีการขยายเวลาลงทะเบียนถึงวันที่ 5 มีนาคม คาดว่าประชาชนจะได้รับความสะดวกมากขึ้น
ผลสรุปคือในวันที่ 17-18 ก.พ. 64 ณ หอประชุมที่ว่าการ์อำเภอบางสะพานน้อย และ วันที่ 20-21 ก.พ.64 ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอทับสะแก เปิดให้พี่น้องประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเราชนะตามเวลาราชการ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาให้แก่พี่น้องประชาชนทั้งสองอำเภอ สส.ประมวลพงศ์ถาวราเดชกล่าว