ครอบครัว "น้องน้ำมนต์" รองนางสาวไทยปี 2562 ทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ พร้อมนำร่างกลับบ้านที่อุบลราชธานี ด้านทีมสอบสวนอุบัติเหตุลงพื้นที่ตรวจสอบหาสาเหตุแล้ว
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 16 ก.พ. 2564 ที่ศาลาพิธีกรรม ภายแผนกนิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ พ.ต.อ.นพดล ช่วยบุญ ผกก.สภ.น้ำเที่ยง จ.ศรีสะเกษ บิดาของ น.ส.มนชนิตว์ ช่วยบุญ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 939 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี หรือน้องน้ำมนต์ นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ ชั้นปีที่4 มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข. รองนางสาวไทยปี 2562 พร้อมคนในครอบครัวร่วมกันแต่งตัวให้น้องน้ำมนต์ ด้วยนำสายสะพายและมงกุฏสวมใส่ให้กับน้องนำมนต์ และนำน้องน้ำมนต์ กลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของคนในครอบครัวและเพื่อนนักศึกษาอย่างมาก
นางติ๋ว ภานนท์ อายุ 49 ปี พี่เลี้ยงของน้องน้ำมนต์ กล่าวว่า หลังรับตำแหน่งรองนางสาวไทยปี 2562 น้องน้ำมนต์รับงานต่างๆเท่าที่รับได้และไม่ตรงกับวันที่มีเรียนหนังสือ และอยู่ภายใต้การดูแลของสมาคมศิษย์เก่า วชิราวุธ มาโดยตลอด โดยน้องน้ำมนต์ปฏิบัติหน้าที่ของตัวเอง ไม่เคยขาดตกบกพร่อง
"ในส่วนของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ไม่ทราบรายละเอียดว่าเกิดจากสาเหตุใด คงให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสืบสวนสอบสวน ซึ่งเมื่อขั้นตอนที่นิติเวช รพ.ศรีนครินทร์เรียบร้อยแล้ว ครอบครัวได้รับศพน้องกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่วัดผาสุการาม อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี โดยสมาคมศิษย์เก่า วชิราวุธ จะเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมศพน้องน้ำมนต์ ไปจนถึงวันฌาปนกิจศพ คือวันเสาร์ที่ 20 ก.พ."
ขณะที่ รศ.ดร.ธีระพงษ์ พวงมะลิ ประธานหลักสูตรวัสดุศาสตร์และนาโนเทคโนโลยี สาขาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มข. กล่าวว่า น้องน้ำมนต์ เป็นคนที่การศึกษาดีมาตลอด เมื่อครั้งประกวดนางงามและได้รับตำแหน่งรองนางสาวไทย เป็นช่วงที่ต้องทำกิจกรรมต่อเนื่อง จึงทำให้ไม่มีเวลาเรียน จึงขอดรอปไว้ 1 เทอม เมื่อบริหารเวลาได้ก็กลับมาเรียนตามปกติ ซึ่งน้องน้ำมนต์เคยบอกว่า จะเรียนจบปีเดียวกับเพื่อน ซึ่งน้องก็ทำได้และอีกไม่นานก็จะจบพร้อมเพื่อน และน้องเคยบอกไว้ว่า เมื่อเรียนจบปริญญาตรีแล้ว จะเรียนต่อปริญญาโททันที แต่ไม่คาดคิดว่าน้องจะมาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ก่อนที่จะทำตามความฝันของตัวเองได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตามขณะนี้คนในครอบครัว ได้รับศพน้องน้ำมนต์ออกจากนิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ กลับไปที่วัดผาสุการาม อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าจะเดินทางถึงในเวลาประมาณ 20.00 น
ในเวลาต่อมาคนในครอบครัวของนายเกริกฤทธิ์ สุกงพงษ์พันธ์คำ อายุ 22 ปี, น.ส.กรชฎา เสียงใส อายุ 22 ปี และน.ส.มนชนิตว์ ช่วยบุญ อายุ 22 ปีหรือ น้องน้ำมนต์ รองนางสาวไทย ปี 2562 ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถเก๋งเสียหลักพลิกคว่ำ ได้ประกอบพิธีเรียกดวงวิญญาณผู้เสียชีวิตกลับบ้าน ตามความเชื่อ ที่บริเวณหน้าคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยมีพระสงฆ์ พร้อม พารห์ม นำประกอบพิธี ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติที่มาร่วมพิธี
ด้ายทีมสืบสวนสอบสวนอุบัติเหตุจังหวัดขอนแก่น ซึ่งประกอบด้วยทีมสหวิชาชีพจากหน่วยงานต่างๆ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุและวิเคราะห์ปัญหา ก่อนจะนำข้อมูลไปประชุมและหาข้อสรุป ก่อนจะส่งข้อมูลให้กับทางมหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อนำไปแก้ไขและออกมาตรการควบคุมและป้องกันอุบัติเหตุภายในมหาวิทยาลัยต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าจากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าขณะที่รถยนต์ผู้เสียชีวิตขับมาตามถนนมาถึงด้านหน้าคณะนิติศาสตร์ มีรถยนต์วิ่งอยู่ด้านหน้า 1 คัน และรถยนต์ผู้เสียชีวิตพยายามที่จะแซงขวา แต่รถยนต์คันข้างหน้าให้สัญญาณไฟเลี้ยวขวากระทันหัน ทำให้รถยนต์ผู้เสียชีวิตหักหลบออกทางด้านซ้าย ประกอบกับที่ขับมาด้วยความเร็ว ทำให้รถยนต์เสียหลักชนฟุตบาทข้างทาง ทำให้รถยนต์ลอยกระเด็น กระแทกกับต้นไม้ ก่อนที่จะลื่นไถลไปไกลกว่า 10 เมตร จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว
นางติ๋ว ภานนท์ อายุ 49 ปี พี่เลี้ยงของน้องน้ำมนต์ กล่าวว่า หลังรับตำแหน่งรองนางสาวไทยปี 2562 น้องน้ำมนต์รับงานต่างๆเท่าที่รับได้และไม่ตรงกับวันที่มีเรียนหนังสือ และอยู่ภายใต้การดูแลของสมาคมศิษย์เก่า วชิราวุธ มาโดยตลอด โดยน้องน้ำมนต์ปฏิบัติหน้าที่ของตัวเอง ไม่เคยขาดตกบกพร่อง
"ในส่วนของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ไม่ทราบรายละเอียดว่าเกิดจากสาเหตุใด คงให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสืบสวนสอบสวน ซึ่งเมื่อขั้นตอนที่นิติเวช รพ.ศรีนครินทร์เรียบร้อยแล้ว ครอบครัวได้รับศพน้องกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่วัดผาสุการาม อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี โดยสมาคมศิษย์เก่า วชิราวุธ จะเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมศพน้องน้ำมนต์ ไปจนถึงวันฌาปนกิจศพ คือวันเสาร์ที่ 20 ก.พ."
ขณะที่ รศ.ดร.ธีระพงษ์ พวงมะลิ ประธานหลักสูตรวัสดุศาสตร์และนาโนเทคโนโลยี สาขาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มข. กล่าวว่า น้องน้ำมนต์ เป็นคนที่การศึกษาดีมาตลอด เมื่อครั้งประกวดนางงามและได้รับตำแหน่งรองนางสาวไทย เป็นช่วงที่ต้องทำกิจกรรมต่อเนื่อง จึงทำให้ไม่มีเวลาเรียน จึงขอดรอปไว้ 1 เทอม เมื่อบริหารเวลาได้ก็กลับมาเรียนตามปกติ ซึ่งน้องน้ำมนต์เคยบอกว่า จะเรียนจบปีเดียวกับเพื่อน ซึ่งน้องก็ทำได้และอีกไม่นานก็จะจบพร้อมเพื่อน และน้องเคยบอกไว้ว่า เมื่อเรียนจบปริญญาตรีแล้ว จะเรียนต่อปริญญาโททันที แต่ไม่คาดคิดว่าน้องจะมาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ก่อนที่จะทำตามความฝันของตัวเองได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตามขณะนี้คนในครอบครัว ได้รับศพน้องน้ำมนต์ออกจากนิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ กลับไปที่วัดผาสุการาม อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าจะเดินทางถึงในเวลาประมาณ 20.00 น
ในเวลาต่อมาคนในครอบครัวของนายเกริกฤทธิ์ สุกงพงษ์พันธ์คำ อายุ 22 ปี, น.ส.กรชฎา เสียงใส อายุ 22 ปี และน.ส.มนชนิตว์ ช่วยบุญ อายุ 22 ปีหรือ น้องน้ำมนต์ รองนางสาวไทย ปี 2562 ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถเก๋งเสียหลักพลิกคว่ำ ได้ประกอบพิธีเรียกดวงวิญญาณผู้เสียชีวิตกลับบ้าน ตามความเชื่อ ที่บริเวณหน้าคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยมีพระสงฆ์ พร้อม พารห์ม นำประกอบพิธี ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติที่มาร่วมพิธี
ด้ายทีมสืบสวนสอบสวนอุบัติเหตุจังหวัดขอนแก่น ซึ่งประกอบด้วยทีมสหวิชาชีพจากหน่วยงานต่างๆ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุและวิเคราะห์ปัญหา ก่อนจะนำข้อมูลไปประชุมและหาข้อสรุป ก่อนจะส่งข้อมูลให้กับทางมหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อนำไปแก้ไขและออกมาตรการควบคุมและป้องกันอุบัติเหตุภายในมหาวิทยาลัยต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าจากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าขณะที่รถยนต์ผู้เสียชีวิตขับมาตามถนนมาถึงด้านหน้าคณะนิติศาสตร์ มีรถยนต์วิ่งอยู่ด้านหน้า 1 คัน และรถยนต์ผู้เสียชีวิตพยายามที่จะแซงขวา แต่รถยนต์คันข้างหน้าให้สัญญาณไฟเลี้ยวขวากระทันหัน ทำให้รถยนต์ผู้เสียชีวิตหักหลบออกทางด้านซ้าย ประกอบกับที่ขับมาด้วยความเร็ว ทำให้รถยนต์เสียหลักชนฟุตบาทข้างทาง ทำให้รถยนต์ลอยกระเด็น กระแทกกับต้นไม้ ก่อนที่จะลื่นไถลไปไกลกว่า 10 เมตร จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว