มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ จับมือเครือข่าย 15 ตำบล ลงนาม MOU ขับเคลื่อนการจ้างงาน สร้างอาชีพ ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ภายใต้โครงการมหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ นายบุญพาศ รักนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ หรือ MOU โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ มหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ ระหว่างมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ หรือ มนร. กับหน่วยงานท้องถิ่น เครือข่าย 15 ตำบล ในพื้นที่ ที่ห้องประชุม ดร.จงรัก พลาศัย สำนักงานอธิการบดี มนร. อำเภอเมืองนราธิวาส ซึ่งมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จงรัก พลาศัย นายกสภามหาวิทยาลัยนราธิวาสราบนครินทร์ กล่าวต้อนรับ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ทวี บุญภิรมย์ รองอธิการบดีฝ่ายแผนและพัฒนาคุณภาพ กล่าวรายงาน รองศาสตราจารย์ ดร.รสสุคนธ์ แสงมณี อธิการบดีมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ กล่าวว่า การลงนาม MOU ในวันนี้ (15 ก.พ.64) สืบเนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายให้หน่วยงานทุกภาคส่วนดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวด ควบคู่การใช้มาตรการเยียวยาและช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ทั้งจากการว่างงานและบัณฑิตจบใหม่ไม่สามารถทำงานได้ ในส่วนของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดย มนร. ได้ร่วมขับเคลื่อนการดำเนินงานตามโครงการดังกล่าว เพื่อเยียวยาฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม มุ่งเน้นฟื้นฟูคุณภาพชีวิตระดับชุมชน ทั้งการสร้างงาน พัฒนาอาชีพในชุมชน ให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ ทั้งนี้กลุ่มเป้าหมายตามโครงการ มี 6 อำเภอ ในพื้นที่ 15 ตำบล ดำเนินการจ้างงาน 300 อัตรา ในระยะเวลา 1 ปี แบ่งออกเป็น 3 ประเภทของกลุ่มผู้ทำงาน ได้แก่ ประเภทบัณฑิตจบใหม่ ค่าตอบแทนเดือนละ 15,000 บาท จำนวน 150 อัตรา//ประเภทประชาชนทั่วไป ค่าตอบแทนเดือนละ 9,000 บาท จำนวน 75 อัตรา//ประเภทนักศึกษา ค่าตอบแทนเดือนละ 5,000 บาท จำนวน 75 อัตรา ซึ่งจะเริ่มปฏิบัติงานในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ เป็นต้นไป รองศาสตราจารย์ ดร.รสสุคนธ์ กล่าวด้วยว่า มนร. ได้มอบหมายให้ศูนย์วิจัยและนวัตกรรม พร้อมด้วยหน่วยงานระดับคณะ วิทยาลัย สถาบัน เร่งลงพื้นที่วางแผนจัดกิจกรรมโครงการกับหน่วยงานท้องถิ่น อบต. เทศบาล ผู้นำชุมชนในพื้นที่ ในการยกระดับคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ และสร้างทักษะอาชีพให้กับชุมชนอย่างเต็มกำลัง