กรมศิลปากรบวงสรวงการอนุรักษ์ซ่อมแซมบานไม้ประดับมุกศิลปะญี่ปุ่น วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม วันนี้(15ก.พ.64) นายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร เป็นประธานในพิธีบวงสรวงการอนุรักษ์ซ่อมแซมบานไม้ประดับมุกศิลปะญี่ปุ่น ณ พระวิหารหลวง วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร โดยมีพระธรรมไตรโลกาจารย์ (พูนศักดิ์ วรภทฺทโก) รองแม่กองธรรมสนามหลวง เจ้าอาวาสวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร ได้เจิมเครื่องมือช่างเป็นมงคลในพิธี จากนั้นอธิบดีกรมศิลปากร ร่วมไขถอดบานหน้าต่างประดับมุก เป็นปฐมฤกษ์ นายประทีป เปิดเผยว่า บานประตูและบานหน้าต่างประดับมุกอันเป็นศิลปะของประเทศญี่ปุ่น ประดับอยู่ภายในพระวิหารหลวง วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม ตั้งแต่พุทธศักราช 2408 ซึ่งทางวัดได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของศิลปวัตถุชิ้นสำคัญนี้ และมีความประสงค์ต้องการให้ทางกรมศิลปากรดำเนินการซ่อมแซมบานประตู และบานหน้าต่างประดับมุกที่ชำรุดเสียหาย โดยที่ผ่านมาทางวัดได้ดำเนินงานโครงการอนุรักษ์โบราณสถานภายในวัด อันมีบุคลากรจากสำนักสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร ร่วมควบคุมการอนุรักษ์ ด้วยมีข้อตกลงตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการดำเนินความร่วมมือระหว่างกรมศิลปากรกับสถาบันวิจัยมรดกทางวัฒนธรรมแห่งชาติ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น (Tokyo National Research Institute for Cultural Properties :TNRICP) ในการดูแลรักษามรดกทางวัฒนธรรมระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้ กรมศิลปากรและสถาบันวิจัยฯ ได้กำหนดแผนการดำเนินงานโครงการศึกษาเรื่องการอนุรักษ์บานไม้ประดับมุกศิลปะญี่ปุ่น ณ วิหารหลวง วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม กรุงเทพมหานคร โดยได้ดำเนินการระยะที่ 1 นำตัวอย่างบานไม้ประดับมุก ไปศึกษารายละเอียดส่วนประกอบของศิลปวัตถุ ณ สถาบันวิจัยมรดกทางวัฒนธรรมแห่งชาติ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น Tokyo National Research Institute for Cultural Properties ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 – 2558 ระยะที่ 2 วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมารามได้ส่งตัวแทนจากหน่วยงานภายใต้สังกัดกรมศิลปากร ประกอบด้วย กลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และสำนักช่างสิบหมู่ รวมถึงตัวแทนจากโรงเรียนช่างฝีมือในวัง หน่วยละ 2 ราย รวมทั้งสิ้น 6 ราย เดินทางไปร่วมดำเนินการโครงการฯ ณ สถาบันวิจัยฯ ดังกล่าว แล้วเสร็จตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ.2558 ขณะนี้ได้ดำเนินงานถึงช่วงระยะที่ 3 ดำเนินการอนุรักษ์บานไม้ประดับมุกศิลปะญี่ปุ่น โดยตัวแทนจากสถาบันวิจัยฯ เดินทางมาร่วมวางแนวทางและร่วมอนุรักษ์บานไม้ประดับมุกศิลปะญี่ปุ่น ซึ่งจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 – 2568 เป้าหมายอนุรักษ์ซ่อมแซมบานไม้ประดับมุกและแผ่นไม้ประดับรักลายนูน ในส่วนที่ชำรุดและเสื่อมสภาพ จำนวน 94 แผ่น โดยคงรูปแบบลวดลายลักษณะเดิม ส่วนใดที่หลุดล่วงไปแล้วจะไม่เติมให้เต็ม ดำเนินงานส่วนของพื้นให้เป็นพื้นรักสีดำอันเกิดจากยางรักเท่านั้น เพื่ออนุรักษ์ซ่อมแซมบานประตูและหน้าต่างประดับมุก พระวิหารหลวง วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม กรุงเทพมหานคร ให้เกิดความมั่นคง แข็งแรง เนื่องด้วยเป็นศิลปวัตถุชิ้นสำคัญของประเทศชาติ ตลอดจนอนุรักษ์และเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรมด้านงานประดับมุกศิลปะญี่ปุ่นในประเทศไทยให้สืบทอดต่อไป