เมื่อวันที่ 15 ก.พ. เวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ครม.เห็นชอบร่างประกาศสำหรับสนธิสัญญาห้ามอาวุธนิวเคลียร์ และให้กระทรวงการต่างประเทศโดยคณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก จัดทำและนำส่งประกาศดังกล่าวต่อเลขาธิการสหประชาชาติ โดยหากมีการแก้ไขร่างประกาศในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือขัดต่อผลประโยชน์ของไทย อนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาดำเนินการโดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากครม.อีก
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับร่างประกาศสำหรับสนธิสัญญาห้ามอาวุธนิวเคลียร์ดังกล่าว เป็นพันธกรณีที่ไทยต้องดำเนินการตามที่ได้ลงนามและให้สัตยาบันไปแล้วเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2560 ซึ่งเป็นหนึ่งในสามประเทศแรกที่ได้ลงนามและให้สัตยาบัน และฮอนดูรัสเป็นรัฐผู้ให้สัตยาบันลำดับที่ 50 เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2563 ส่งผลให้สนธิสัญญามีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2564 ดังนั้นไทยจึงต้องเร่งเสนอร่างประกาศฯ เพื่อให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสนธิสัญญาซึ่งกำหนดให้ไทยต้องนำส่งประกาศต่อเลขาธิการสหประชาชาติภายใน 30 วัน ซึ่งตรงกับวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2564 โดยสาระสำคัญของร่างประกาศฯ คือ การแจ้งว่า ไทยไม่เคยเป็นเจ้าของและไม่เป็นเจ้าของครอบครอง หรือควบคุมอาวุธนิวเคลียร์หรือระเบิดนิวเคลียร์อื่นๆ รวมถึงไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ หรือระเบิดนิวเคลียร์อื่นๆ ในอาณาเขตของราชอาณาจักรไทย หรือ ณ ที่ใดภายใต้เขตอำนาจหรือการควบคุมของราชอาณาจักรไทยที่รัฐอื่นเป็นเจ้าของ ครอบครอง หรือควบคุมด้วย