สะเทือนใจแม่วัย 40 ปี ชาวตำบลโพนทอง อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมญาติ ถือภาพถ่ายลูกสาววัย 17 ปี อดีตนักตะกร้อโรงเรียนประจำจังหวัด ขอความช่วยเหลือกับผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ให้ตามตัวคู่กรณีขับรถกระบะชนรถจยย.ของลูกสาวถนนกลางเมืองจนเสียชีวิตแล้วหลบหนี หลังเกิดเหตุนานกว่า 3 สัปดาห์แล้วยังตามตัวคนขับกระบะไม่ได้ หวั่นลูกสาวตายฟรี
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ นางพัชรินทร์ ไชยบล อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 168 หมู่ 7 บ้านโพนทอง ต.โพนทอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนายวิศิษฐ์ ไชยบล อายุ 60 ปี บิดาและญาติ ถือภาพถ่ายลูกสาวอายุ 17 ปี เข้าติดตามความคืบหน้าคดีที่ลูกสาวถูกรถกระบะคู่กรณีชนจนเสียชีวิตแล้วหนีกับ พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ สุริยะ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ โดยเหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถนำตัวคนขับรถคู่กรณีมาดำเนินคดี เกรงว่าลูกสาวจะเสียชีวิตฟรี จึงมาติดตามคดีและขอร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามคดีด้วย เนื่องเวลาผ่านมานานกว่า 3 สัปดาห์และเคยมาติดตามแล้ว 2 ครั้งแต่ไม่มีความคืบหน้า
นางพัชรินทร์ ไชยบล อายุ 40 ปี แม่ของนางสาวพัชรี ผู้เสียชีวิต กล่าวทั้งน้ำตาว่า อุบัติเหตุลูกสาวถูกรถกระบะคู่กรณีชนแล้วหนีก่อนเสียชีวิตดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 23.10 น.ของวันที่ 23 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา บนถนนถีนานนท์ บริเวณสะพานลอยหน้าตลาดสดทุ่งนาทอง และอยู่ใจกลางเมืองกาฬสินธุ์ โดยวันเกิดลูกสาวซึ่งเป็นอดีตนักตะกร้อโรงเรียนประจำจังหวัด ได้ขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อเดม่อน สีแดง หมายเลขทะเบียน 1 กฉ 2499 กาฬสินธุ์ ฝั่งเลนเข้าตัวเมืองกาฬสินธุ์ กำลังจะไปธุระ แต่กลับถูกรถกระบะ ทราบจากผู้เห็นเหตุการณ์ว่าเป็นรถกระบะสีขาว ไม่ทราบยี่ห้อ ไม่ทราบทะเบียน ขับขี่มาด้วยความเร็วชนล้มลงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เบื้องต้นกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาล ก่อนที่จะเสียชีวิต เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2564 ที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์
นางพัชรินทร์ กล่าวอีกว่า หลังจากเกิดเหตุ ตนได้มาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2564 ก่อนที่ลูกสาวจะเสียชีวิต เนื่องจากได้รับบาดเจ็บสาหัส และทนพิษบาดแผลไม่ไหว จากนั้นได้มาติดตามความคืบหน้าของคดีกับพนักงานสอบสวน 2 ครั้ง เพื่อให้ช่วยติดตามรถกระบะคู่กรณีมาดำเนินคดี และแสดงความรับผิดชอบ ทั้งนี้จากการสอบถามพยานบุคคล ที่ใกล้สถานที่เกิดเหตุ ทราบว่ารถคู่กรณีเป็นรถกระบะสีขาว ไม่ทราบรุ่น ยี่ห้อ และหมายเลขทะเบียน แต่ถนนและจุดบริเวณที่เกิดเหตุนั้นอยู่ใจกลางเมือง คาดว่าจะต้องมีภาพกล้องวงจรปิดอยู่หลายจุด และอาจจะสามารถบันทึกภาพรถคันต้องสงสัยไว้ได้ จึงได้ถือภาพถ่ายบุตรสาวมาติดตามคดี และขอร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวคนขับ เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับดวงวิญญาณลูกสาว และเกรงว่าลูกสาวจะเสียชีวิตฟรี เพราะเวลาผ่านมานานกว่า 3 สัปดาห์แล้ว คู่กรณียังหลบหนีลอยนวล
ด้าน พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ สุริยะ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่เนื่องจากอยู่ในระหว่างติดตามพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากหลักฐานที่มีอยู่ยังไม่ชัดเจน ทั้งรูปพรรณสัณฐานของรถคู่กรณี และภาพจากกล้องวงจรปิด รวมทั้งพยานที่เห็นเหตุการณ์ เนื่องจากเวลาเกิดเหตุค่อนข้างดึก เบื้องต้นได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.สุเทพ ภูกัณหา รองผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ดูแลรับผิดชอบคดี และเร่งดำเนินการติดตามตัวคนขับให้เร็วที่สุด เพื่อให้ความเป็นธรรมกับญาติและผู้เสียชีวิตต่อไป