เมื่อวันที่ 15 ก.พ. เวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวว่า จากการระบาดเป็นกลุ่มก้อนในพื้นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และที่ตลาดพรพัฒน์ จังหวัดปทุมธานี ทำให้ ศบค.ยังต้องจับตาและติดตามใกล้ชิด โดยจากข้อมูลวันที่ 11 ก.พ.64 กรณีการติดเชื้อในพื้นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีการคัดกรองผู้สัมผัสใกล้ชิดไปแล้ว 862 คน ยืนยันผลติดเชื้อ 20 คน ส่วนการคัดกรองพื้นที่ตลาดชุมชนรอบๆ จุฬา ข้อมูล ณ วันที่ 12 ก.พ.64 คัดกรองแล้ว 343 ราย ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ แต่ยังรอผลตรวจอีกประมาณ 100 คน ส่วนกรณีผู้ติดเชื้อกลุ่มก้อนที่ตลาดพรพัฒน์ จังหวัดปทุมธานี พบว่าผู้ป่วยรายแรกของกลุ่มก้อนนี้เป็นหญิงชาวเมียนมา อาชีพผู้ค้าขายในตลาด เริ่มมีอาการเมื่อวันที่ 30 ม.ค.64 จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่ได้รับรส จนกระทั่งวันที่ 6 ก.พ.64 ไปตรวจที่โรงพยาบาลและในวันที่ 7 ก.พ.64 ยืนยันพบว่าติดเชื้อโควิด-19 หลังจากนั้นองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.),ตลาด,สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด,กรมอนามัย และมูลนิธิศุภนิมิต ลงพื้นที่สอบสวนโรค ตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ.64 คัดกรองผู้สัมผัสใกล้ชิด 1,333 คน พบติดเชื้อ 175 คน ซึ่งจากข้อมูลการสอบสวนโรค ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อมีการกระจายตัวอยู่ในพื้นที่กลางตลาด เจ้าหน้าที่วิเคราะห์แล้วพบว่า แม้เป็นตลาดเปิด แต่พื้นที่ส่วนกลางมีเพดานต่ำ อากาศไม่ค่อยถ่ายเท ผู้ติดเชื้อให้ข้อมูลด้วยว่า ในช่วงอากาศร้อนก็จะไม่สวมหน้ากาก ซึ่งการติดเชื้อที่ตลาดแห่งนี้ ยังทำให้เกิดการแพร่กระจายไปยังจังหวัดสมุทรสงคราม เพชรบุรี สระบุรี นครราชสีมา และนครนายก ส่วนการแพร่ระบาดที่จังหวัดตาก ก็ยังเป็นพื้นที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากพบการติดเชื้อในพยาบาล ที่คาดว่าน่าจะติดเชื้อจากผู้ป่วย ซึ่งเมื่อไปติดตามสอบสวนโรคจากผู้ป่วยรายนี้ พบว่าอาศัยอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ ทำให้มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 10 คน และคนในครอบครัวยังทำอาชีพค้าขายในตลาดสีมอย จึงทำให้ต้องมีการตรจคัดกรองผู้สัมผัสเสี่ยงในตลาด รวมทั้งในชุมชนและสถานที่เลี้ยงไก่ (ไม่ใช่สถานที่ชนไก่) นอกจากนี้ ทางจังหวัดยังตรวคัดกรองเชิงรุกในพื้นที่อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยรายนี้ เช่น ในคลังรถจักรยาน และในโรงงานแห่งหนึ่ง ทำให้ขณะนี้จังหวัดตาก มีผู้ป่วยสะสมจากการระบาดรอบใหม่แล้ว 112 คน