เมื่อวันที่ 15 ก.พ. เวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์  ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวถึงกรณีที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลวางแผนการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนที่อยู่จังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เพื่อสร้างความมั่นใจในการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจว่า ทางศบค.มีการวางแผนในการการกระจายวัคซีนอย่างรัดกุม และจะจัดให้เป็นระยะๆ โดยในระยะแรกวัคซีนจะมาในเดือนก.พ.-พ.ค.วัคซีนมีจำกัดจะฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ และในพื้นที่เสี่ยงก่อนระยะที่ 2 จะมาถึงเดือนมิ.ย.-ธ.ค.คาดว่าเพียงพอ ประชนในจังหวัดท่องเที่ยวได้ฉีดแน่นอน ซึ่งอยากเน้นย้ำว่าศบค.ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยว เพราะจะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้นการกระจายวัคซีนเราไม่ได้พิจารณากลุ่มไหนก่อนหลัง เพราะการจัดเก็บวัคซีนมีความสำคัญในเรื่องความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคด้วย เมื่อถามว่าทางศบค.จะมีมาตรการ ในการป้องกันโควิดสายพันธุ์เซาท์แอฟริกา ไม่ให้เข้ามาในประเทศไทยอย่างไร  และสามารถใช้วัคซีนรักษาหายได้หรือไม่ พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ไม่ว่าสายพันธุ์อังกฤษ หรือสายพันธุ์เซาท์แอฟริกาศบค.ก็เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์โรคในประเทศต่างๆอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศเราก็มีสถานที่กักกันตัวไว้ และมีมาตรการ ดูแลอย่างเข้มงวด ไม่ว่าจะมาจากประเทศไหน ซึ่งน่าจะมีการทบทวนระยะเวลาในการกักตัวให้นานขึ้น จากเดิม14 วันอาจจะต้องเพิ่มเป็น 21 วัน เพราะชาวต่างชาติที่ เดินทางมาจากแอฟริกา เพื่อสกัดกั้นและควบคุมโรคไม่ให้เข้ามาในประเทศไทย