การเป็นคนเก่ง คนดี อาจเป็นเรื่องดี สำหรับคนๆ นั้น และคนรอบข้าง แต่หากคนเก่ง คนดีคนนั้น เป็นคนที่สร้างประโยชน์ และคอยช่วยเหลือคนอื่นๆ ให้ลุกขึ้นมาลืมตาอ้าปาก หรือมีชีวิตที่ดีขึ้น ย่อมเรียกได้ว่า เป็นความโชคดีของสังคมและประเทศนั้นๆ ยิ่งประเทศใด มีบุคคลเหล่านี้มากเท่าไร สังคมในประเทศ ก็ย่อมมีความสุขมากขึ้นเป็นเท่าตัว การหันมามองคนข้างหลัง และไม่เคยทิ้งใคร เป็นหนึ่งในนิยามคุณธรรม ที่เกิดขึ้นในหัวใจของผู้หญิงที่ชื่อ “ดร.เพ็ญ- ชณิชา ล้อสีทอง” ประธาน บริษัท เอสพีเจ.กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์ “ปลาสลิดติดบ้าน” อยู่เสมอมา ซึ่งหากว่าไปแล้ว เรียกได้ว่า เธอเป็นหนึ่งในผู้หญิงแถวหน้าของประเทศไทย ที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ ที่สร้างขึ้นด้วยสองมือของเธอ และการก้าวเข้ามาช่วยเหลือประชาชนที่กำลังเดือดร้อนในวันนี้นับเป็นอีกบทบาทที่ท้ายทาย “หลังจากที่เราประสบความสำเร็จกับธุรกิจขายปลาสลิดแบรนด์ “ปลาสลิดติดบ้าน” ที่เราสร้างขึ้นด้วยมือของเราจนเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีในตลาดคอนซูเมอร์ และกลุ่มร้านอาหารในต่างประเทศ มายาวนานกว่า 30 ปี ทั้งในอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย ไต้หวัน และเกาหลีใต้ ก็รู้สึกว่า อยากทำงานเพื่อตอบแทนสังคม” ก่อนหน้านี้ การได้ไปทำธุรกิจและใช้ชีวิตอยู่ใน ญี่ปุ่น และ สหรัฐอเมริกา รวมระยะเวลากว่า 20 ปี ไม่เพียงจะทำให้เธอ ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ เท่านั้น แต่ยังทำให้เธอมองเห็นโลกในมุมกว้างมากขึ้น “ตอนที่อยู่ในอเมริกา เห็นคนสูงอายุที่นั้น บางคนนำแก้วน้ำมาวางไว้หน้าบ้าน แล้วบอกกับตำรวจว่า หากวันใด ไม่เห็นแก้วน้ำนี้อยู่หน้าบ้าน ให้เข้ามาดูเธอในบ้านได้เลย นั่นแสดงว่า ผู้สูงอายุที่นั่น ต้องอยู่เพียงลำพัง ไม่มีคนเข้ามาดูแล ทำให้เรารู้สึกว่า อยากนำประสบการณ์ ทั้งหมดที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์กับสังคมไทย” ในฐานะที่ตนทำงานคลุกคลีกับหลายองค์กร และประกอบธุรกิจมานาน จึงเห็นความสำคัญของศักยภาพสตรีไทย ที่จะช่วยผลักดันประเทศให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ โดยเฉพาะในเรื่องการประกอบอาชีพ ประกอบกับธุรกิจของเราอยู่ตัวแล้ว เลยอยากจะหันมาทำงานเพื่อสังคมแบบเต็มตัว เธอจึงตัดสินใจก่อตั้งสมาพันธ์สตรีทำความดีแห่งประทศไทย ขึ้นมา
ภารกิจสำคัญของสมาพันธ์ฯ คือ เรื่องเรื่องลูกหนี้และเรื่องเกษตรกร
ทางสมาพันธ์ฯ ต้องการช่วยเหลือประชาชนที่กำลังตกทุกข์ได้ยาก หรือ ประสบภาวะยากลำบาก ไม่ว่าจะเป็นหนี้สิน หรือแม้แต่ปัญหาด้านการเกษตร ดร.เพ็ญ- ชณิชา ล้อสีทอง ซึ่งอีกตำแหน่ง คือ ที่ปรึกษากระทรวงมหาดไทย เล่าถึงความแข็งแกร่งของสมาพันธ์สตรีทำดีแห่งประเทศไทย ว่า ภายใต้สมาพันธ์ฯ ยังมีมูลนิธิ องค์กร และชมรม ที่มีเป้าหมายเดียวกันเพื่อช่วยเหลือประชาชน “สมาพันธ์ฯ ของเรายังได้ทำ MOU ร่วมกับหน่วยงาน องค์กร ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านแตกต่างกันไปด้วย เพื่อให้ประชาชนได้รับความช่วยเหลืออย่างรอบด้าน และได้รับการช่วยเหลืออย่างตรงจุด ขณะที่ตัวของเราเองก็จะทำหน้าที่อุดช่องว่าง และเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไป รวมถึงการนำโมเดล ที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว ไปช่วยให้การแก้ไขปัญหาเหล่านั้น มีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น” “สำหรับเป้าหมายของสมาพันธ์ เราทำงานโดยยึดมั่นใน 3 สถาบันคือ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รวมถึงเรายังทำงานเพื่อดึงบทบาทของสตรีในการเป็นผู้นำให้ออกมาอย่างชัดเจน และช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตทั้งระบบแบบยั่งยืนด้วย ซึ่งมีความแตกต่างไปจากองค์กรการกุศล โดยเราไม่ได้เน้นเรื่องของการบริจาค แต่เราเน้นที่จะรวบรวมหน่วยงาน หรือ องค์กรที่มีความรู้ มาใช้ช่วยเหลือประชาชนมากกว่า ซึ่งสามารถช่วยเหลือประชาชนได้อย่างยั่งยืน แม้จะต้องใช้ระยะเวลานานบ้าง แต่ก็ได้ประสิทธิภาพสูงสุด” “คนไทยก็มีความสามารถหลายด้าน หากๆด้รับการสนับสนุนที่ดีในเรื่องของการประกอบอาชีพ การส่งเสริมไปในทิศทางที่ยั่งยืน ก็จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขับเคลื่อนไปอย่างราบรื่น เชื่อว่าเราน่าจะพัฒนาที่ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะสตรีไทยมีความสามารถมาก ดังนั้น สมาพันธ์สตรีทําความดีแห่งประเทศไทย จึงขอทำหน้าที่นอกเหนือจากการเชิดชูการทำความดีของสตรีแล้ว ยังจะช่วยส่งเสริมในเรื่องของการประกอบอาชีพของสตรีอีกด้วย” ดร.เพ็ญ- ชณิชา ล้อสีทอง ยังทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า ความสุขในวันนี้ของเธอ อาจไม่ได้เกิด จากความสำเร็จ ในธุรกิจอีกต่อไป แต่จะเป็นความสุขที่เกิดจาก การได้เห็นชาวบ้านที่เคยเดือดร้อนได้กลับมายิ้ม และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขอีกครั้ง ท่านที่สนใจสมัครเป็นสมาชิกสมาพันธ์สตรีฯ ได้ฟรี ที่ เฟซบุ๊ก สมาพันธ์สตรีทำความดีแห่งประเทศไทย หรือโทร 02-272-2199, 02-2722128, 096-835-8972