วันที่ 11 ก.พ.2564 ที่ศูนย์ดำรงธรรม ศาลากลางจังหวัดสตูล นายธนกร บุศรา อายุ 51 ปี น้องชายของนางสุดใจ บุศรา อายุ 57 ปี ชาวบ้านหมู่ที่5 บ้านย่าบล อำเภอมะนัง จังหวัดสตูล ผู้ได้รับบาดเจ็บจากช้างกระทืบปางตาย เมื่อวัน2 ก.พ.64 ที่ผ่านมา ขณะนี้ยังนอนรักษาตัวที่รพ.ในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา) พร้อมตัวแทนชาวบ้านและหนังสือ 2 ฉบับมาร้องขอความเป็นธรรมให้กับผู้ได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้ และหนังสือจากผู้เดือดร้อนที่มีการล่ารายชื่อจำนวน50 คนในหมู่บ้านย่าบล หมู่ที่5 ที่ถูกช้างเข้าทำลายพืชสวน สร้างความเสียใจและความหวาดกลัวให้ชาวบ้านจนไม่เป็นอันทำมาหากิน ยื่นผ่านให้นางสาวกุลาตี คันธโชติ ผอ. ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสตูลช่วยเหลือ
โดยตัวแทนชาวบ้านและผู้เสียหายจากช้างทำร้ายชาวบ้านขณะออกไปตัดยางพาราเช้ามืดวันที่2 ก.พ.64 ที่ผ่านมาและชาวบ้านที่กังวลพืชสวนที่เจ้าของช้างนำเข้าไปผูก โดยสร้างความเสียหายและความหวาดกลัวจะถูกช้างทำร้ายเหมือนอย่างนางสุดใจ ต้องการให้เจ้าของช้างออกมาแสดงตนในการรับผิดชอบ เพราะเวลาล่วงเลยหลังเกิดเหตุมานานร่วม 9 วันแล้ว ยังไม่มีการช่วยเหลือหรือแสดงน้ำใจด้วยการมาถามไถ่เยี่ยมเยียน รถจักรยานยนตร์ที่พังเสียหายจากช้างกระทืบจนพัง รายได้ที่ต้องสูญเสียไปเพราะนางสุดใจผู้บาดเจ็บ เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ทำงานกรีดยางพาราหาเงินเลี้ยงลูกที่เรียนหนังสือเพียงลำพัง ใครจะเป็นผู้ดูและและรับผิดชอบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้สิ่งที่พวกตนประสบปัญหาคือหลังมีการแจ้งความกลับถูกเจ้าของช้างข่มขู่ว่าหากแจ้งความจะไม่ช่วยเหลือใดๆทั้งสิ้น จึงวอนขอให้ทางการช่วยเหลือให้ความเป็นธรรมชาวบ้านด้วย
ด้านตัวแทนชาวบ้านที่เดินทางมาร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสตูลในครั้งนี้ ยอมรับว่า กลัวว่าช้างจะเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านอีก เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันน่ากลัวว่าช้างอาจจะหลุดและมาทำร้ายชาวบ้านขณะไปตัดยางพารา กลางคืนอีกได้หากไม่มีการจัดการนำช้างออกไปจากพื้นที่ หรือ จัดการให้ช้างอยู่เป็นที่เป็นทางไม่ออกมาสร้างความเดือดร้อน ซึ่งช้างเป็นของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ชาวบ้านก็ไม่อยากไปยุ่งแต่ความหวาดกลัวทำให้ต้องล่ารายชื่อมาเพื่อขอความช่วยเหลือไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับใคร อยากทำมาหากินแบบไม่มีความหวาดกลัวมากกว่า และอยากให้มีการจัดระเบียบอย่างให้มากกว่านี้ เพราะปัญหาช้างสร้างความเสียพืชสวนมีมานานหลายปีแล้ว จนมาเกิดเหตุสะเทือนขวัญในวันที่ช้างตกมันหลุดมาทำร้ายชาวบ้านเจ็บปางตาย
หลังจากนั้นชาวบ้านได้ทำหนังสือเข้าแจ้งต่อ พ.ต.อ.พสิษฐ์ ศานติปรัชญา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสตูลเพื่อให้ช่วยเร่งในการติดตามคดี เพราะเวลาก็ล่วงเลยมานานยังไม่มีการเรียกไปสอบปากคำหรือดำเนินการใดๆหลังเกิดเหตุ จนถึงขณะนี้ค่ารักษาพยาบาลที่ต้องจ่ายสูงถึง1 แสน 6 หมื่นบาทแล้วใครจะรับผิดชอบ นางสุดใจผู้บาดเจ็บก็ยังอาการโคม่า กระดูกสันหลัง ตับ และปอดลีบหายใจไม่ปกติ รายได้ที่ขาดหายไป
อีกทั้งเจ้าของช้างที่ชาวบ้านอ้างว่า เป็นของบุตรผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่5 บ้านย่าบล อ.มะนัง ไม่มาพูดจา เมื่อรู้ว่ามีการแจ้งความไว้ที่สภ.มะนัง บอกให้ไปฟ้องร้องเอาเองหากอยากได้รับความช่วยเหลือ แต่หากจะให้ช่วยก็ต้องถอนแจ้งความ จึงวอนให้ตำรวจช่วยเร่งรัดคดีความให้ความเป็นธรรมชาวบ้านด้วย