เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 เทศกาลตรุษจีนวันจ่ายวันแรกที่ชาวชาวไทยเชื้อสายจีน ที่ต้องออกมาจับจ่ายใช้สอยในการซื้อหาอาหารสิ่งของ และเครื่องเซ็นไหว้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม ในวันไหว้เทพเจ้า และบรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปแล้ว เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว
ซึ่งตรุษจีนปีนี้ตรงกับวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 โดยเฉพาะที่ตลาดสดมหาราชเทศบาลเมืองกระบี่ บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยในวันแรกไม่ค่อยจะคึกคักเท่าที่ควรไม่เหมือนกับปีที่ผ่านมา สาเหตุเนื่องจากประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ถึงสองรอบ ทำให้โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร กิจการต่างๆต้องหยุดชะงักและต้องปิดกิจการลง ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาพักผ่อน ผู้ประกอบการไม่มีรายได้ จึงทำให้พนักงานและลูกจ้างต้องตกงานทำให้ขาดรายได้ ครอบครัวมีเงินไม่พอจ่ายและต้องใช้จ่ายกันอย่างประหยัด ถึงแม้ว่าทางรัฐบาลมีโครงการต่างๆเข้ามาช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการก็ตาม
จากการสำรวจแผงขายอาหารที่จำเป็น ทราบว่า ตรุษจีน ปีนี้ส่วนใหญ่ราคาสินค้าถูกกว่าปีที่ผ่านมาถึง 10 – 20 บาท อย่างเช่น เนื้อสุกรเนื้อสุกรแดงล้วน เนื้อสามชั้นกิโลกรัมละ 150 – 160 บาท เนื้อติดมันกิโลกรัมละ 150 บาท กระดูกซีโครงกิโลกรัมละ 160 บาท หัวสุกรหัวละ 180 ส่วนเนื้อไก่ราคาลดลง 5 - 10 บาท เช่นไก้บ้านกิโลกรัมละ 140 บาท ไก่ไข่กิโลกรัมละ 90 บาท ไก่เนื้อกิโลกรัมละ 70 บาท
สำหรับขนมเข๋งราคายังเท่าเดิมกิโลกรัมละ 100 บาท ขนมเทียนราคาเท่าเดิมลูกละ 5 บาท วินค้าทุกชนิดราคาถูกกว่าปีที่ผ่านมากิโลกรัมละ 10 – 15 บาท
จำพวกผักต่างๆ เช่น ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักกาดขาว ผักกวางตุ้ง หัวผักกาด คาคาถูกกว่าปีที่ผ่านมากิโลกรัมละ 35 บาท สำหรับผลไม้ที่นิยมนำไปไหว้ราคาลดลง 20 บาท เช่นองุ่นไทย องุ่นนอก กิโลกรัมละ 80 - 120 บาท ส้มเขียวหวาน ส้มสายน้ำผึ้ง ส้มโชกุน กิโลกรัมละ 50 – 70 บาทแตงโมราคาเท่าเดิมกิโลกรัมละ 25 บาท
ซึ่งตรุษจีนปีนี้ตรงกับวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 โดยเฉพาะที่ตลาดสดมหาราชเทศบาลเมืองกระบี่ บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยในวันแรกไม่ค่อยจะคึกคักเท่าที่ควรไม่เหมือนกับปีที่ผ่านมา สาเหตุเนื่องจากประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ถึงสองรอบ ทำให้โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร กิจการต่างๆต้องหยุดชะงักและต้องปิดกิจการลง ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาพักผ่อน ผู้ประกอบการไม่มีรายได้ จึงทำให้พนักงานและลูกจ้างต้องตกงานทำให้ขาดรายได้ ครอบครัวมีเงินไม่พอจ่ายและต้องใช้จ่ายกันอย่างประหยัด ถึงแม้ว่าทางรัฐบาลมีโครงการต่างๆเข้ามาช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการก็ตาม
จากการสำรวจแผงขายอาหารที่จำเป็น ทราบว่า ตรุษจีน ปีนี้ส่วนใหญ่ราคาสินค้าถูกกว่าปีที่ผ่านมาถึง 10 – 20 บาท อย่างเช่น เนื้อสุกรเนื้อสุกรแดงล้วน เนื้อสามชั้นกิโลกรัมละ 150 – 160 บาท เนื้อติดมันกิโลกรัมละ 150 บาท กระดูกซีโครงกิโลกรัมละ 160 บาท หัวสุกรหัวละ 180 ส่วนเนื้อไก่ราคาลดลง 5 - 10 บาท เช่นไก้บ้านกิโลกรัมละ 140 บาท ไก่ไข่กิโลกรัมละ 90 บาท ไก่เนื้อกิโลกรัมละ 70 บาท
สำหรับขนมเข๋งราคายังเท่าเดิมกิโลกรัมละ 100 บาท ขนมเทียนราคาเท่าเดิมลูกละ 5 บาท วินค้าทุกชนิดราคาถูกกว่าปีที่ผ่านมากิโลกรัมละ 10 – 15 บาท
จำพวกผักต่างๆ เช่น ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักกาดขาว ผักกวางตุ้ง หัวผักกาด คาคาถูกกว่าปีที่ผ่านมากิโลกรัมละ 35 บาท สำหรับผลไม้ที่นิยมนำไปไหว้ราคาลดลง 20 บาท เช่นองุ่นไทย องุ่นนอก กิโลกรัมละ 80 - 120 บาท ส้มเขียวหวาน ส้มสายน้ำผึ้ง ส้มโชกุน กิโลกรัมละ 50 – 70 บาทแตงโมราคาเท่าเดิมกิโลกรัมละ 25 บาท