วันที่ 8 ก.พ.64 ที่ ทุ่งทอรัก วิสาหกิจชุมผ้าทอนาหมื่นศรี ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง จ.ตรัง ผู้ปกครองจูงมือบุตรหลาน ร่วมกิจกรรม “ออกปากเก็บข้าว” ซึ่งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผ้าทอหมื่นศรีจัดขึ้นเพื่อได้เรียนรู้วิถีชีวิตชาวนา รู้คุณค่าของข้าว รวมทั้งเรียนรู้วัฒนธรรมโบราณการทำขวัญข้าว ขอขมาและบูชาพระแม่โพสพ โดยกิจกรรมภายในงานได้มีการจัดให้ลงทะเบียนเพื่อรับแกะที่ใช้สำหรับเก็บข้าว ส่วนของเด็กๆจะให้เป็นกรรไกรแทน เพื่อร่วมกิจกรรมลงแขกเก็บข้าวในนา ซึ่งจะมีชาวบ้านในพื้นที่ชำนาญในการเก็บข้าวแนะนำวิธีเก็บข้าวด้วยแกะ สร้างการเรียนรู้เรื่องวิถีนา ให้แก่เด็กๆและผู้ปกครองที่เข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งก่อนเริ่มเก็บข้าว ยายเป็น รักชู อายุ 72 ปี ซึ่งเป็นครูหมอข้าว ตำบลนาหมื่นศรี อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง ทำพิธีขวัญข้าวโบราณ ซึ่งหาดูได้ยากในรอบหลายสิบปี ที่กำลังจะเลือนหายไปจากวิถีนา โดยยายเป็น ได้ทำการเลือกข้าวในนา มุมหนึ่งของผืนนาทั้งหมด เพื่อทำพิธีขวัญข้าว โดยการนำเอาต้นอ้อย ต้นกล้วยและต้นไม้ นาปักไว้บริเวณที่เลือกพื้นที่ข้าว พร้อมนำข้าวสุก ขนมโค ไข่ต้ม น้ำ กับข้าว แล้วทำพิธีสวดทำขวัญข้าว เพื่อความเป็นสิริมงคลและขอบคุณพระแม่โพสพที่ดูแลให้ความอุดมสมบูรณ์แก่ผืนนา โดยเชื่อกันว่าเมื่อทำพิธีนี้แล้วพระแม่โพสพจะช่วยคุ้มครองข้าวในนาให้มีผลผลิตที่ดี อีกทั้งยังเป็นการสร้างขวัญกำลังใจแก่ชาวนา ส่วนข้าวที่ได้ทำขวัญข้าวจะทำการเก็บหลังจากที่ทุกคนได้ร่วมกันเก็บข้าวทั้งหมด ซึ่งข้าวส่วนนี้จะนำไปไว้บนสุดของยุ้งข้าวที่เก็บไว้ และหากมีพิธีกรรม ที่มีการใช้ร่วงข้าว ก็จะนำข้าวที่ได้มีการทำขวัญข้าวส่วนนี้ไปร่วมในพิธีกรรมอีกด้วย จากนั้น ผู้ที่มาร่วมงาน ทั้งชาวบ้านในพื้นที่ นักท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดตรังและจังหวัดใกล้เคียง กว่า 200 คน พาครอบครัว จูงมือบุตรหลาน มาร่วมกันลงแขกเกี่ยวข้าวด้วยแกะ สร้างความรักสามัคคีร่วมแรงร่วมใจกันของคนในชุมชนที่นับวันต่างเลือนหายไปจากสังคมไทยให้กลับมาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีการสาธิตมัดเลียงข้าวด้วยต้นข้าว และนำแสกหาบข้าวมาเรียงเลียงข้าวเป็นชั้น เพื่อแบกหาบข้าวไปยังยุ้งข้าวที่บ้าน โดยนักท่องเที่ยว เยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมลงแขกเก็บข้าวด้วยแกะรู้สึกสนุกสนาน ตื่นเต้น กับกิจกรรมเป็นอย่างมาก ด้านนางสาวอารอบ เรืองสังข์ ประธานวิสาหกิจชุมชนผ้าทอนาหมื่นศรี บอกว่า กิจกรรม "ออกปากเก็บข้าว" เป็นอีกส่วนหนึ่งที่กลุ่มทอผ้าฯ ต้องการอนุรักษ์และสืบสานเรื่องการทำนา โดยเฉพาะประเพณีวัฒนธรรมของชาวตำบลนาหมื่นศรี เป็นการบ่งบอกถึงการพึ่งพาอาศัยและความมีน้ำใจต่อกัน เป็นความรัก การช่วยเหลือเผื่อแผ่ ซึ่งตรงกับแนวทางของกลุ่มทอผ้าฯ ที่ทอผ้าด้วยความรัก โดยในครั้งนี้นอกจากทุกคนจะได้มาเก็บข้าวร่วมกันแล้ว ทุกคนยังได้เห็นพิธี “ทำขวัญข้าว” หรือที่ชาวนาหมื่นศรีเรียกว่า “บทสมโภชแม่โพสพ” หรือ “บทชุมนุมแม่โพสพ” ที่ไม่ได้ยินกันมานานหลายสิบปี โดยครูหมอข้าวได้มาทำพิธีจริงเพื่อนำ “ขวัญข้าว” ไปบูชาไว้บนยุ้งข้าวหรือลอมข้าวเพื่อความเป็นมงคลแก่ชาวนาและฤดูการผลิต เพื่อให้ลูกหลานได้ยินได้ฟัง เพียงหวังเกิดความตระหนักรู้คุณค่าของข้าวที่กิน และ ชาวนาที่ปลูก นางสาวอารอบ บอกอีกว่า สำหรับกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ลักษณะนี้ สำหรับครั้งแรกคือการเก็บข้าวเกี่ยวข้าวนั้นไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายใดๆจากผู้เข้าร่วมกิจกรรม และต่อไปจะมีการจัดอีกเรื่อย หากจะมีการบริหารค่าใช้จ่ายก็ต้องทำเป็นระบบธุรกิจชุมชนหรือธุรกิจเพื่อสังคม แต่จะไม่จัดในเชิงธุรกิจเป็นที่ตั้ง หากแต่จะกำหนดเรื่องราวหรือประเด็นของกิจกรรมในแต่ละครั้ง แล้วเปิดรับจองในจำนวนที่สามารถทำกิจกรรมได้อย่างมีคุณภาพ โดยใช้สถานที่ "ทุ่งทอรัก" ซึ่งเกิดจากการประชุมตกลงของกลุ่มทอผ้าฯเพื่อตั้งชื่อให้กับสถานที่ซึ่งเป็นที่ดินของกลุ่มบริเวณใกล้กับเขาช้างหาย จำนวน 8 ไร่ ที่กำลังยกระดับให้กลายเป็น "ศูนย์การเรียนรู้เชิงเกษตรหัตถกรรมผ้าทอนาหมื่นศรี" ต่อไปในภายภาคหน้า ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มต้นไปบ้างแล้ว ในเรื่องการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเพื่อทำเส้นไหมมาทอผ้าด้วยตัวเอง การสร้างศาลาเอนกประสงค์ เพื่อรับจัดเลี้ยงนักท่องเที่ยวในแบบกลุ่ม จัดกิจกรรมนำเที่ยวชุมชนนาหมื่นศรี ซึ่งมีความหลากหลายทั้งธรรมชาติและประเพณีวัฒนธรรม และจัดกิจกรรมแนวแคมปิ้งสำหรับนักท่องเที่ยวแบบกลุ่ม ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดกิจกรรมและการใช้พื้นที่ "ทุ่งทอรัก" ได้ที่ นางสาวอารอบ เรืองสังข์ ประธานวิสาหกิจชุมชนผ้าทอนาหมื่นศรี 081-476-4318 หรือ อินบ๊อกเพจ "วิสาหกิจชุมชนผ้าทอนาหมื่นศรี ทั้งนี้สำหรับ พิธีกรรมบูชาแม่โพสพหรือพิธีกรรมทำขวัญข้าว เป็นพิธีกรรมตามความเชื่อและศรัทธาที่มีต่อแม่โพสพ ซึ่งเป็นเทพธิดาข้าว เพื่อความเป็นสิริมงคลและขอบคุณพระแม่โพสพที่ดูแลให้ความอุดมสมบูรณ์แก่ผืนนา โดยเชื่อกันว่าเมื่อทำพิธีนี้แล้วพระแม่โพสพจะช่วยคุ้มครองข้าวในนาให้มีผลผลิตที่ดี อีกทั้งยังเป็นการสร้างขวัญกำลังใจแก่ชาวนา สร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวนาว่า ในการทำนาครั้งต่อไป ข้าวในนาจะปราศจากโรคภัยต่างๆ ทั้งจากธรรมชาติและแมลงศัตรูพืช ขณะที่ทางเด็กๆมาร่วมกิจกรรม ต่างบอกว่า รู้สึกสนุก ตื่นเต้น ไม่เคยเกี่ยวข้าวมาก่อน ได้มาร่วมกิจกรรมทำให้ได้ความรู้ได้รู้ที่มาของข้าว รู้จักวิธีการเก็บข้าว ดีใจที่มีกิจกรรมดีดีเช่นนี้