เมื่อวันที่ 8 ก.พ.64 แหล่งข่าวใกล้ชิดพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่พล.อ.ชวลิต ได้หย่าร้างกับ คุณหญิงพันธ์ุเครือ ยงใจยุทธ อดีตภรรยา กันเรียบร้อยแล้วเมื่อปี 2560 พล.อ.ชวลิตได้ยกบ้านทั้งปิ่นประภาคม และบ้านที่จังหวัดนครพนม ให้กับคุณหญิงพันธุ์ แต่ที่เป็นข่าวขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากเมื่อเร็วๆนี้ พล.อ.ชวลิต ได้เดินทางไปบ้านพักผ่อนที่จังหวัดนครพนม แต่ไม่สามารถเข้าบ้านพักได้ เนื่องเปลี่ยนเจ้าของแล้ว เพราะทราบภายหลังว่า คุณหญิงพันธุ์เครือได้ยกบ้านให้กับทหารคนใกล้ชิดที่ดูแลบ้านเป็นเวลานาน ซึ่งผิดเจตนารมย์ของพล.อ.ชวลิตที่ต้องการให้บ้านนครพนมเป็นที่พักผ่อนของคนในครอบครัว ส่วนบ้านปิ่นประภาคมก็ให้เป็นที่พักอาศัยในอนาคตของลูก แต่กลายเป็นว่ายกให้บุคคลอื่น และถูกจำนองไปแล้ว ดังนั้นทำให้พล.อ.ชวลิต จึงต้องร้องขอความเป็นธรรมต่อศาลเยาวชนและครอบครัว นนทบุรี แม้ฝ่ายคุณหญิงพันธ์ุเครือ จะยื่นต่อศาลว่ามีเอกสารที่พล.อ.ชวลิต ลงนามยกบ้านให้แล้ว แต่พล.อ.ชวลิตยืนยันว่าไม่เคยลงนามและทำเอกสารใดๆในเรื่องนี้ และไม่เคยกลับไปบ้านปิ่นประภาคมอีกเลย ส่วนบ้านที่นครพนมนั้นศาลได้เลื่อนการสอบปากคำโจทก์และจำเลย และผู้ที่เกี่ยวข้องออกไปเดือนมี.ค. 2564 ส่วนบ้านปิ่นประภาคม นัั้นศาลมีการไต่สวนทั้งโจทก์ และจำเลยครบแล้วจะมีการตัดสินในวันที่ 25 ก.พ.นี้ ทั้งนี้แหล่งข่าวใกล้ชิดเปิดเผยต่อว่า พล.อ.ชวลิต ได้สั่งให้ทหารที่ทำงานชิดใกล้ กลับกรมกองไปแล้วตั้งแต่เมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา แต่ล่าสุดนายทหารก็ยังไม่ได้กลับไปรายงานกลับแต่อย่างใด