วันนี้(6ก.พ.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ เขตพื้นที่ สภ.ห้วยยาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ได้เกิดเหตุสะเทือนขวัญเมื่อพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติถูกคนร้ายแอบฆาตกรรมใช้ของแข็งทุบหัวพระสุริยา วงศ์สมบัติ อายุ 44 ปี ที่สำนักสงฆ์ป่าเปือย บ้านป่าผึ้ง หรือ บ้านป่าหว่าน หมู่ที่ 12 ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ จนทนผิดบาดแผลไม่ไหวมรณภาพช่วงเช้าวันที่ 23 ม.ค.64 ที่ผ่านมา จากกันคว้านหาตัวนานอยู่หลายวันพล.ต.ต.ชูสวัสดิ์ จันทร์โรจนกิจ ผบก.สส.ภ.3 จึงมอบหมายให้ พ.ต.อ.สุกาญจน์ นิลอ่อน ผกก.สืบสวน 3บก.สส.ภ.3 พร้อมชุดสืบสวนนำกำลังสมทบร่วมกับพ.ต.อ.สมพร อินเหลา ผกก.สภ.ห้วยยาง และชุดสืบสวน สภ.ฯ ร่วมเข้าคลี่คลายคดี และจับกุมตัว
ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา (5 ก.พ.64 )เวลา 23.00น. พ.ต.ท.คเชนทร์ ชาคริตรัตน์ รอง ผกก. สอบสวน สภ.ห้วยยาง.นำหมายศาลจังหวัดภูเขียว ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 พร้อมชุดจับกุมเข้ารวบตัว นายจักรพันธ์หรือก๊อต ชาติชำนาญ อายุ 24 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 54 หมู่ที่ 3 ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ โดยกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำนั้นถึงแก่ความตาย
เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2564 เวลาประมาณ 10.00 น ได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายไม่ทราบว่าเป็นใครได้เข้ามาทำร้ายร่างกายพระสุริยา วงศ์สมบัติ อายุ 44 ปี ที่สำนักสงฆ์ป่าเปลือยบ้าน ป่าผึ้งหมู่ 12 ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต่อมาได้เสียชีวิต ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ก็คือนายจักรพันธ์หรือก๊อต ชาติชำนาญ อายุ 24 ปี อยู่ที่บ้าน 54 บ้านเลขที่ 54 บ้านโนนจำปา หมู่ 3 ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร หลังจากก่อเหตุได้หลบหนีไป ในการเข้าจับกุมนายจักรพันธ์หรือก๊อต ชาติชำนาญ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยยาง
โดยได้ตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำนั้นถึงแก่ความตาย นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยยาง นายจักรพันธ์ หรือก๊อต ชาติชำนาญ ผู้ต้องหา ได้ให้การยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง ซึ่งตนเองที่ผ่านมาได้เป็นลูกศิษย์ของพระสุริยา ที่อาศัยอยู่ภายในสำนักสงฆ์ ด้วยความยากได้เงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ เคยก่อเหตุขโมยเงินของพระสุริยา มาแล้วหลายครั้ง จนล่าสุดได้แอบย่องไปทำร้ายร่างกาย พระสุริยาอีก โดยใช้ท่อนไม้ตีท้ายทอยพระสุริยา จนพระสุริยา ถึงกับล้มลงนอนสลบลง จากนั้น เพิ่งรื้อค้นข้าวของมีค่าเอาไป ขณะที่พระสุริยันฟื้นแล้วพูดว่าจะเอาอะไรก็เอาไปให้หมดนะ จากนั้นตนเองจึงได้หลบหนีไป ต่อมาได้นำนายจักรพันธ์ หรือก๊อต ชาติชำนาญ ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ณ ที่เกิดเหตุชายปาเชิงเขาสำนักสงฆ์ป่าเปลือยบ้านป่าผึ้งที่เกิดเหตุ ผมต้องยุติการทำแผนชั่วคราวเนื่องจากมีชาวบ้านมารอดูหน้าและหวิดโดนรุมประชาทัณฑ์ ก่อนนำตัวไปฝากขังศาล จ.ภูเขียว เพื่อส่งดำเนินคดีในข้อหาร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำนั้นถึงแก่ความตาย ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา (5 ก.พ.64 )เวลา 23.00น. พ.ต.ท.คเชนทร์ ชาคริตรัตน์ รอง ผกก. สอบสวน สภ.ห้วยยาง.นำหมายศาลจังหวัดภูเขียว ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 พร้อมชุดจับกุมเข้ารวบตัว นายจักรพันธ์หรือก๊อต ชาติชำนาญ อายุ 24 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 54 หมู่ที่ 3 ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ โดยกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำนั้นถึงแก่ความตาย
เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2564 เวลาประมาณ 10.00 น ได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายไม่ทราบว่าเป็นใครได้เข้ามาทำร้ายร่างกายพระสุริยา วงศ์สมบัติ อายุ 44 ปี ที่สำนักสงฆ์ป่าเปลือยบ้าน ป่าผึ้งหมู่ 12 ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต่อมาได้เสียชีวิต ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ก็คือนายจักรพันธ์หรือก๊อต ชาติชำนาญ อายุ 24 ปี อยู่ที่บ้าน 54 บ้านเลขที่ 54 บ้านโนนจำปา หมู่ 3 ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร หลังจากก่อเหตุได้หลบหนีไป ในการเข้าจับกุมนายจักรพันธ์หรือก๊อต ชาติชำนาญ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยยาง
โดยได้ตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำนั้นถึงแก่ความตาย นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยยาง นายจักรพันธ์ หรือก๊อต ชาติชำนาญ ผู้ต้องหา ได้ให้การยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง ซึ่งตนเองที่ผ่านมาได้เป็นลูกศิษย์ของพระสุริยา ที่อาศัยอยู่ภายในสำนักสงฆ์ ด้วยความยากได้เงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ เคยก่อเหตุขโมยเงินของพระสุริยา มาแล้วหลายครั้ง จนล่าสุดได้แอบย่องไปทำร้ายร่างกาย พระสุริยาอีก โดยใช้ท่อนไม้ตีท้ายทอยพระสุริยา จนพระสุริยา ถึงกับล้มลงนอนสลบลง จากนั้น เพิ่งรื้อค้นข้าวของมีค่าเอาไป ขณะที่พระสุริยันฟื้นแล้วพูดว่าจะเอาอะไรก็เอาไปให้หมดนะ จากนั้นตนเองจึงได้หลบหนีไป ต่อมาได้นำนายจักรพันธ์ หรือก๊อต ชาติชำนาญ ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ณ ที่เกิดเหตุชายปาเชิงเขาสำนักสงฆ์ป่าเปลือยบ้านป่าผึ้งที่เกิดเหตุ ผมต้องยุติการทำแผนชั่วคราวเนื่องจากมีชาวบ้านมารอดูหน้าและหวิดโดนรุมประชาทัณฑ์ ก่อนนำตัวไปฝากขังศาล จ.ภูเขียว เพื่อส่งดำเนินคดีในข้อหาร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำนั้นถึงแก่ความตาย ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป