วันที่ 5 ก.พ.64 เวลา 21.40 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ร.ต.อ.อำนาจ จันทร์บุตร รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.ท่าเรือ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ (กู้ชีพขุนรัตนาวุธ) ว่าเกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะเสียหลักพุ่งตกคลองชลประทานฝั่งซ้าย-บ้านท่าสนุ่น หมู่ 5 ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกาฯ มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นผู้ชาย 1 รายสามา รถว่ายน้ำขึ้นมาได้ ส่วนหญิงสาวซึ่งเป็นภรรยาได้จมน้ำหายไปกับรถ เจ้าหน้าที่นักประดาน้ำกำลังเร่งลงงมค้นหาอยู่
หลังจากรับแจ้งจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุพบว่า นักประดาน้ำชุดสายธารของมูลนิธิฯ พร้อมอุปกรณ์นำกำลังลงงมค้นหารถและร่างของหญิงสาวที่ติดอยู่ภายในรถ โดยมีนายประสาท บุญมา ผอ.ฝ่ายอำนวยการของมูลนิธิฯ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาชุดปฎิบัติการใต้น้ำชุดสายธารกำลังอำนวยการสั่งการในการงมค้นหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การติดตามงมค้นหาซากรถเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากเป็นเวลาช่วงค่ำ และมีกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกราก จึงยากต่อการงมค้นหา ต้องใช้เวลาอยู่กว่า 2 ชม.จึงพบรถยนต์กระบะโตโยต้าวีโก้สีขาวแบบตอนเดียว หมายเลขทะเบียน ปม-6675 กาญจนบุรี ถูกกระแสน้ำพัดพาห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 200 เมตร ตรวจสอบตรงที่นั่งผู้โดยสารด้านข้างคนขับ พบร่างหญิงสาวนั่งฟุบหมดสติอยู่ภายในรถ จึงช่วยกันนำร่างหญิงสาวออกมาจากรถขึ้นมาไว้บนบก และทำการช่วยเหลือปั้มหัวใจเบื้องต้น เนื่องจากสัญญาณชีพจรอ่อนมาก
ก่อนจะรีบนำตัวส่ง รพ.มะการักษ์เพื่อให้แพทย์ทำการ CPR ช่วยเหลือชีวิตเป็นการด่วน แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถช่วยชีวิตหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายรายนี้เอาไว้ได้ เนื่องจากขาดอากาศหายใจเป็นเวลานานกว่า 20 นาที ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงได้ประสานไปยังร้อยเวรเจ้าของคดีให้มาร่วมชันสูตรพลิกศพตามระเบียบ
โดยเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิฯ ได้ประสานรถยกลากจูงมาทำการชักลากรถกระบะขึ้นมาไว้บนถนน ด้วยสภาพของรถบริเวณกันชนด้านหน้าซีกขวามีร่องรอยการเฉี่ยวชนจนพังเสียหาย ส่วนจุดอื่นๆ ของรถไม่มีร่องรอยความเสียหายแต่อย่างใด เบื้องต้นจากการสอบสวนทราบชื่อหญิงสาวผู้ตายชื่อนางเบญญาภา พัฒน์ปณิธาร อายุ 47 ปี อยู่บ้านไม่ทราบเลขที่ หมู่ 7 ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ส่วนสามีของผู้ตายซึ่งเป็นคนขับรถชื่อนายชินพัฒน์ หรือตี๋ พัฒน์ปณิธาร อายุ 48 ปี อยู่บ้านไม่ทราบเลขที่เช่นกัน
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายชินพัฒน์ ได้ขับรถกระบะคันดังกล่าวไปทำธุระที่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี โดยมีนางเบญญาภา ภรรยานั่งไปด้วย ซึ่งคนทั้ง 2 มีอาชีพทำสวนกุหลาบหลังเสร็จธุระจึงขับรถเดินทางมุ่งหน้ากลับบ้าน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุอยู่ๆ นายชินพัฒน์ ได้เกิดอาการวูบ จากการเป็นโรคภูมิแพ้ ทำให้รถเสียหลักพุ่งลงข้างทางชนต้นกล้วยริมถนนเลียบริมคลองฯ ก่อนจะตกลงไปในคลองชลประทาน ขณะที่รถกำลังค่อยๆ จมน้ำ นายชินพัฒน์ ได้สติ จึงร้องเรียกบอกภรรยาให้รีบปีนออกจากรถ ส่วนนายชินพัฒน์ พยายามกระเสือกกระสนปืนออกจากรถว่ายน้ำขึ้นฝั่งจนรอดตายหวุดหวิด ส่วนนางเบญญาภา ภรรยาผู้เคราะห์ร้าย คาดว่าคงอยู่ในอาการตกใจ จนทำอะไรไม่ถูก ร่างจึงติดไปกับรถจมน้ำหายไปจนเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือนำร่างออกมาส่ง รพ.และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายชินพัฒน์ ไปตรวจวัดแอลกอฮอล์ในร่างกาย ผลการตรวจไม่พบสารเสพติด หรือปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายแต่อย่างใด จึงเชิญตัวไปสอบสวนปากคำอย่างละเอียดเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
หลังจากรับแจ้งจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุพบว่า นักประดาน้ำชุดสายธารของมูลนิธิฯ พร้อมอุปกรณ์นำกำลังลงงมค้นหารถและร่างของหญิงสาวที่ติดอยู่ภายในรถ โดยมีนายประสาท บุญมา ผอ.ฝ่ายอำนวยการของมูลนิธิฯ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาชุดปฎิบัติการใต้น้ำชุดสายธารกำลังอำนวยการสั่งการในการงมค้นหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การติดตามงมค้นหาซากรถเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากเป็นเวลาช่วงค่ำ และมีกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกราก จึงยากต่อการงมค้นหา ต้องใช้เวลาอยู่กว่า 2 ชม.จึงพบรถยนต์กระบะโตโยต้าวีโก้สีขาวแบบตอนเดียว หมายเลขทะเบียน ปม-6675 กาญจนบุรี ถูกกระแสน้ำพัดพาห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 200 เมตร ตรวจสอบตรงที่นั่งผู้โดยสารด้านข้างคนขับ พบร่างหญิงสาวนั่งฟุบหมดสติอยู่ภายในรถ จึงช่วยกันนำร่างหญิงสาวออกมาจากรถขึ้นมาไว้บนบก และทำการช่วยเหลือปั้มหัวใจเบื้องต้น เนื่องจากสัญญาณชีพจรอ่อนมาก
ก่อนจะรีบนำตัวส่ง รพ.มะการักษ์เพื่อให้แพทย์ทำการ CPR ช่วยเหลือชีวิตเป็นการด่วน แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถช่วยชีวิตหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายรายนี้เอาไว้ได้ เนื่องจากขาดอากาศหายใจเป็นเวลานานกว่า 20 นาที ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงได้ประสานไปยังร้อยเวรเจ้าของคดีให้มาร่วมชันสูตรพลิกศพตามระเบียบ
โดยเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิฯ ได้ประสานรถยกลากจูงมาทำการชักลากรถกระบะขึ้นมาไว้บนถนน ด้วยสภาพของรถบริเวณกันชนด้านหน้าซีกขวามีร่องรอยการเฉี่ยวชนจนพังเสียหาย ส่วนจุดอื่นๆ ของรถไม่มีร่องรอยความเสียหายแต่อย่างใด เบื้องต้นจากการสอบสวนทราบชื่อหญิงสาวผู้ตายชื่อนางเบญญาภา พัฒน์ปณิธาร อายุ 47 ปี อยู่บ้านไม่ทราบเลขที่ หมู่ 7 ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ส่วนสามีของผู้ตายซึ่งเป็นคนขับรถชื่อนายชินพัฒน์ หรือตี๋ พัฒน์ปณิธาร อายุ 48 ปี อยู่บ้านไม่ทราบเลขที่เช่นกัน
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายชินพัฒน์ ได้ขับรถกระบะคันดังกล่าวไปทำธุระที่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี โดยมีนางเบญญาภา ภรรยานั่งไปด้วย ซึ่งคนทั้ง 2 มีอาชีพทำสวนกุหลาบหลังเสร็จธุระจึงขับรถเดินทางมุ่งหน้ากลับบ้าน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุอยู่ๆ นายชินพัฒน์ ได้เกิดอาการวูบ จากการเป็นโรคภูมิแพ้ ทำให้รถเสียหลักพุ่งลงข้างทางชนต้นกล้วยริมถนนเลียบริมคลองฯ ก่อนจะตกลงไปในคลองชลประทาน ขณะที่รถกำลังค่อยๆ จมน้ำ นายชินพัฒน์ ได้สติ จึงร้องเรียกบอกภรรยาให้รีบปีนออกจากรถ ส่วนนายชินพัฒน์ พยายามกระเสือกกระสนปืนออกจากรถว่ายน้ำขึ้นฝั่งจนรอดตายหวุดหวิด ส่วนนางเบญญาภา ภรรยาผู้เคราะห์ร้าย คาดว่าคงอยู่ในอาการตกใจ จนทำอะไรไม่ถูก ร่างจึงติดไปกับรถจมน้ำหายไปจนเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือนำร่างออกมาส่ง รพ.และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายชินพัฒน์ ไปตรวจวัดแอลกอฮอล์ในร่างกาย ผลการตรวจไม่พบสารเสพติด หรือปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายแต่อย่างใด จึงเชิญตัวไปสอบสวนปากคำอย่างละเอียดเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป