ตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ยังไม่ได้แจ้งข้อหาหนุ่มวัย 25 ปี ขับรถเก๋งพุ่งชนสองสามีภรรยาเจ้าของร้านอาหารตามสั่ง เนื่องจากผู้บาดเจ็บยังให้การไม่ได้ ขณะที่ญาติเผยเคยก่อเหตุทำร้ายร่างกายมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ไม่คิดว่าจะขับรถพุ่งชนหมายเอาชีวิตแบบนี้ ยืนยันเอาเรื่องถึงที่สุด
จากกรณีนายเชาวัตน์ พึ่งเจริญ อายุ 25 ปี ขับรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าแจส สีดำ ทะเบียน ษอ 3677 กรุงเทพมหานคร พุ่งชนนายพงษ์พัฒน์ นันทแพง อายุ 25 ปี และนางสาวยุภักดิ์ อิ่มแมน อายุ 27 ปี สองสามีภรรยาเจ้าของร้านอาหารตามสั่งภูมิใจ อยู่ข้างห้างสรรพสินค้ากาฬสินธุ์พลาซ่า สาขา 1 และติดกับกำแพงของธ.ก.ส.กาฬสินธุ์ เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ส่งผลให้สองสามีภรรยาได้รับบาดเจ็บสาหัสและมีลูกค้าที่นั่งรับประทานอาหารได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย เบื้องต้นสาเหตุคาดว่านายเชาวัตน์ เคยมีเรื่องทะเลาะกับเจ้าของร้านมาก่อน
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 5 ก.พ.64 พ.ต.ท.ชูชาติ อุทธิสินธุ์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์เจ้าของคดี กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นดังกล่าว ซึ่งหลังเกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย คือนายพงษ์พัฒน์ นันทแสง นางสาวยุภักดิ์ อิ่มแมน สองสามีภรรยาเจ้าของร้านตามสั่งและก๋วยเตี๋ยว และนายเชาวัตน์ พึ่งเจริญ คนขับรถผู้ก่อเหตุ ซึ่งได้รับบาดเจ็บที่หน้าอก ขณะนี้ทั้งหมดเข้ารับการรักษาตัวที่ตึกอุบัติเหตุ โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ซึ่งยังไม่สามารถให้ปากคำได้ และยังอยู่ในการดูแลอาการอย่างใกล้ชิดของหมอและพยาบาล รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อรักษาความปลอดภัยและป้องกันการหลบหนี
พ.ต.ท.ชูชาติ กล่าวอีกว่า ดังนั้นในเบื้องต้นพนักงานสอบสวนจึงยังไม่ได้แจ้งข้อหากับใคร เนื่องจากยังไม่มีใครกล่าวหาหรือร้องทุกข์ จึงต้องรอสอบปากคำผู้ประสบเหตุหรือคนเจ็บก่อน จึงจะแจ้งผู้ถูกกล่าวหามาสอบ และแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป ซึ่งคาดว่าจะรออีก 2-3 วัน เพราะต้องรอให้คนเจ็บสามารถให้ปากคำได้ ทั้งนี้ทราบว่าทั้ง 3 คน ยังมีอาการบาดเจ็บและยังอยู่ในห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ส่วนผู้ก่อเหตุมีอาการทางประสาทหรือไม่นั้นจะต้องมีการตรวจสอบ ต้องมีเอกสารยืนยันจากแพทย์ และต้องสอบปากคำญาติเสียก่อน
ด้านนายพงษ์พัฒน์ นันทแพง อายุ 25 ปี ผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า สำหรับนายเชารัตน์ ปกติก็ได้ออกมาช่วยแม่ ซึ่งขายแว่นตา และกาแฟ ที่ร้านซึ่งอยู่ติดกันกับร้านของตน โดยก่อนหน้านี้ประมาณ 1 ปีที่ผ่านมาได้ ใช้ท่อนเหล็กไล่ตีตนจนได้รับบาดเจ็บศีรษะแตกโดยไม่มีสาเหตุมาแล้ว ซึ่งครั้งนั้นได้แจ้งความกับตำรวจ ตนก็งงอยู่ว่าทำไมจึงทำร้ายตน ส่วนสาเหตุเป็นการแย่งลูกค้ากันนั้นก็ไม่น่าใช่ เนื่องจากร้านของตนขายอาหารตามสั่ง และก๋วยเตี๋ยว ส่วนร้านแม่ของนายเชารัตน์ขายแว่นตากับกาแฟ อาหารคนล่ะอย่างกัน มารู้ที่หลังว่าสาเหตุตนมองหน้า ส่วนครั้งนี้ตนมองว่าเป็นการก่อเหตุที่รุนแรงเกินไป มุ่งหวังจะให้ตนและภรรยาเสียชีวิตเลย ทรัพย์สินข้าวของเสียหาย จึงต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ขณะที่นายสมศักดิ์ อิ่มแมน อายุ 48 ปี พ่อตานายพงษ์พัฒน์ และเป็นบิดาของนางสาวยุภักดิ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุได้มีเรื่องกับลูกเขยของตน โดยได้ทำร้ายร่างกายใช้เหล็กตีศีรษะนายพงษ์พัฒน์มาก่อนครั้งหนึ่ง ที่ร้านอาหารแห่งนี้ ซึ่งมีการแจ้งความดำเนินคดี และอยู่ระหว่างรออาญา คาดว่าจะทำให้นายเชาว์รัตน์เกิดความไม่พอใจ จึงก่อเหตุอีกครั้ง โดยขับรถพุ่งชนได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว อย่างไรก็ตามการก่อเหตุครั้งที่แล้ว ใจจริงทางญาติไม่ติดใจเอาความ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ แต่ครั้งนี้เป็นการก่อเหตุที่รุนแรง หมายจะฆ่าเอาชีวิตกัน เจตนาฆ่าชัดๆ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามขั้นตอนอย่างเด็ดขาด หากป่วยก็ให้ส่งตัวไปรักษา เพราะหากปล่อยออกอาจจะเป็นอันตรายและอาจจะมาทำร้ายคนอีก