บรรยากาศแหล่งเที่ยว ที่น่าสนใจของ จ.สุรินทร์ นอกจากที่หมู่บ้านช้างเลี้ยงใหญ่ที่สุดในโลก บ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งที่นี่มีศูนย์คชศึกษา (คด-ชะ-สึก-สา) ขององค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)สุรินทร์ ที่มีโครงการนำช้างคืนถิ่นเพื่อพัฒนาสุรินทร์บ้านเกิด โดยมีการแสดงความสามารถของช้างแสนรู้ในช่วงเวลา 10.00 น.และ 14.00 น.ของทุกวันแล้ว
ที่หมู่บ้านตาทิตย์ ม.8 ต.กระโพ อ.ท่าตูม ซี่งอยู่ห่างจากบ้านตากลางเพียง 2 กิโลเมตร ก็มีช้างเลี้ยงจำนวนมากเช่นกัน โดยควาญช้างที่นี่ได้มีการรวมตัวกัน จัดกิจกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยว ด้วยการจัดทำบ้านโฮมสเตย์ที่พักต่างๆ ไว้รองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจากหลายประเทศทั่วโลก เพื่อให้เข้ามาสัมผัสวิถีชีวิตของคนกับช้างอย่างใกล้ชิด นอกจากที่นักท่องเที่ยวจะได้พักโฮมสเตย์ พักอยู่กินกับชาวบ้านแล้ว ยังได้สัมผัสช้างตัวเป็นแบบใกล้ชิด ทั้งอาบน้ำทำความสะอาดช้าง ตัดอ้อยตัดพืชอาหารช้างมาให้ช้าง และพาช้างเดินไปอาบน้ำทั้งที่ลำน้ำชีและแม่น้ำมูล อย่างใกล้ชิดอีกด้วย โดยจะไม่มีการให้นักท่องเที่ยวนั่งบนหลังช้างแต่อย่างใด เป็นภาพบรรยากาศที่อบอุ่นและหาดูได้อย่างอย่างยิ่ง ซึ่งมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจากทั่วโลกให้ความสนเข้ามาเที่ยวและพักสัมผัสกับช้างอย่างใกล้ชิดอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ แต่ละครั้งจะมีไม่ต่ำกว่า 10 คนเลยทีเดียว ทั้งนี้หากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยวชาวไทยที่สนใจกิจกรรมโฮมสเตย์ช้างดังกล่าว สามารถโทรศัพท์ติดต่อมาได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 087-2417714 นายลี ศาลางาม เจ้าของโฮมสเตย์บ้านตาทิตย์
นายลี ศาลางาม อายุ 56 ปี เจ้าของโฮมสเตย์ บ้านตาทิตย์ ม.8 ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ บอกว่า กิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพัก วันแรกเราจะพาไปตัดอ้อยป้อนช้าง เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับช้างก่อน แนะนำว่าให้ช้างกินแบบไหน เตือนอย่าไปล้อเขา ไปก็อย่าไปคนเดียว โดยเรามีควาญช้างแนะนำช่วยบอกวิธี พอทำความคุ้นเคยกันเสร็จในช่วงเช้า หลังกินข้าวเที่ยงแล้ว บ่ายสองโมงก็พาไปอาบน้ำให้ช้าง ให้เขาได้ขัดได้ถูตัวให้ช้างเพื่อสร้างความคุ้นเคยกัน หลังขึ้นมาจากน้ำก็ให้เขานำอ้อยให้กับช้างเชือกที่เขาชอบเขาคุ้นเคย ก็จะเกิดเป็นความผูกพันระหว่างคนกับช้างที่ได้อยู่ใกล้ชิดกัน ตอนเย็นถ้ามีเวลาพอ หรือถ้าอาหารมันเหลือน้อย ก็พาเขาไปตัดอีกนิดๆหน่อยๆ พอแต่ให้ช้างได้กินตอนกลางคืน ซึ่งอาหารที่ตัดมาเขาจะเป็นคนให้กับช้างด้วยตัวเขาเอง ตรงนี้คือความสุขของเขา พอให้อาหารช้างเสร็จก็พากันกินข้าวเย็น เสร็จแล้วก็ให้พักผ่อนกันตามอัธยาศัย
สำหรับโฮมสเตย์เปิดมานาน 10 กว่าปีแล้ว ตอนแรกๆก็ล้มลุกคลุกคลาน ปีหนึ่งก็ไม่ได้เลย เดือนสองเดือนก็ไม่ได้เลย ตอนนี้ถือว่าอยู่ตัวแล้ว ยืนด้วยตัวเองได้แล้ว มีลูกค้าจากทั่วโลกมาเข้าพัก ส่วนคนไทยก็มีเข้ามาพักด้วยเหมือนกัน เขามาเขาก็ประทับใจ ส่วนเรื่องอาหารการกินของชาวต่างชาติ ก็จะมีแม่บ้านกับไกด์ช่วยกันทำให้ สำหรับช้างที่เขาร่วมจะเป็นช้างเลี้ยงที่อยู่ในหมู่บ้าน หากเข้าร่วม 10 เชือก ควาญช้างก็ต้อง 10 คน หาก 20 เชือก ควาญช้างก็ต้อง 20 คน เพราะต้องดูแลช้างอย่างใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวด้วย ส่วนราคาค่ากิจกรรมนั้นเราไม่ได้กำหนด แล้วแต่นักท่องเที่ยวและทัวร์ต่างๆจะให้ ซึ่งก็สามารถเจรจากันได้ตามความเหมาะสม สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาพักผ่อนและต้องการได้สัมผัสใกล้ชิดกินอยู่กับช้างแสนรู้ สามารถติดต่อมาได้ที่เบอร์โทรศัพท์ หมายเลข 087-2417714 นายลี ศาลางาม
ที่หมู่บ้านตาทิตย์ ม.8 ต.กระโพ อ.ท่าตูม ซี่งอยู่ห่างจากบ้านตากลางเพียง 2 กิโลเมตร ก็มีช้างเลี้ยงจำนวนมากเช่นกัน โดยควาญช้างที่นี่ได้มีการรวมตัวกัน จัดกิจกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยว ด้วยการจัดทำบ้านโฮมสเตย์ที่พักต่างๆ ไว้รองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจากหลายประเทศทั่วโลก เพื่อให้เข้ามาสัมผัสวิถีชีวิตของคนกับช้างอย่างใกล้ชิด นอกจากที่นักท่องเที่ยวจะได้พักโฮมสเตย์ พักอยู่กินกับชาวบ้านแล้ว ยังได้สัมผัสช้างตัวเป็นแบบใกล้ชิด ทั้งอาบน้ำทำความสะอาดช้าง ตัดอ้อยตัดพืชอาหารช้างมาให้ช้าง และพาช้างเดินไปอาบน้ำทั้งที่ลำน้ำชีและแม่น้ำมูล อย่างใกล้ชิดอีกด้วย โดยจะไม่มีการให้นักท่องเที่ยวนั่งบนหลังช้างแต่อย่างใด เป็นภาพบรรยากาศที่อบอุ่นและหาดูได้อย่างอย่างยิ่ง ซึ่งมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจากทั่วโลกให้ความสนเข้ามาเที่ยวและพักสัมผัสกับช้างอย่างใกล้ชิดอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ แต่ละครั้งจะมีไม่ต่ำกว่า 10 คนเลยทีเดียว ทั้งนี้หากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยวชาวไทยที่สนใจกิจกรรมโฮมสเตย์ช้างดังกล่าว สามารถโทรศัพท์ติดต่อมาได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 087-2417714 นายลี ศาลางาม เจ้าของโฮมสเตย์บ้านตาทิตย์
นายลี ศาลางาม อายุ 56 ปี เจ้าของโฮมสเตย์ บ้านตาทิตย์ ม.8 ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ บอกว่า กิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพัก วันแรกเราจะพาไปตัดอ้อยป้อนช้าง เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับช้างก่อน แนะนำว่าให้ช้างกินแบบไหน เตือนอย่าไปล้อเขา ไปก็อย่าไปคนเดียว โดยเรามีควาญช้างแนะนำช่วยบอกวิธี พอทำความคุ้นเคยกันเสร็จในช่วงเช้า หลังกินข้าวเที่ยงแล้ว บ่ายสองโมงก็พาไปอาบน้ำให้ช้าง ให้เขาได้ขัดได้ถูตัวให้ช้างเพื่อสร้างความคุ้นเคยกัน หลังขึ้นมาจากน้ำก็ให้เขานำอ้อยให้กับช้างเชือกที่เขาชอบเขาคุ้นเคย ก็จะเกิดเป็นความผูกพันระหว่างคนกับช้างที่ได้อยู่ใกล้ชิดกัน ตอนเย็นถ้ามีเวลาพอ หรือถ้าอาหารมันเหลือน้อย ก็พาเขาไปตัดอีกนิดๆหน่อยๆ พอแต่ให้ช้างได้กินตอนกลางคืน ซึ่งอาหารที่ตัดมาเขาจะเป็นคนให้กับช้างด้วยตัวเขาเอง ตรงนี้คือความสุขของเขา พอให้อาหารช้างเสร็จก็พากันกินข้าวเย็น เสร็จแล้วก็ให้พักผ่อนกันตามอัธยาศัย
สำหรับโฮมสเตย์เปิดมานาน 10 กว่าปีแล้ว ตอนแรกๆก็ล้มลุกคลุกคลาน ปีหนึ่งก็ไม่ได้เลย เดือนสองเดือนก็ไม่ได้เลย ตอนนี้ถือว่าอยู่ตัวแล้ว ยืนด้วยตัวเองได้แล้ว มีลูกค้าจากทั่วโลกมาเข้าพัก ส่วนคนไทยก็มีเข้ามาพักด้วยเหมือนกัน เขามาเขาก็ประทับใจ ส่วนเรื่องอาหารการกินของชาวต่างชาติ ก็จะมีแม่บ้านกับไกด์ช่วยกันทำให้ สำหรับช้างที่เขาร่วมจะเป็นช้างเลี้ยงที่อยู่ในหมู่บ้าน หากเข้าร่วม 10 เชือก ควาญช้างก็ต้อง 10 คน หาก 20 เชือก ควาญช้างก็ต้อง 20 คน เพราะต้องดูแลช้างอย่างใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวด้วย ส่วนราคาค่ากิจกรรมนั้นเราไม่ได้กำหนด แล้วแต่นักท่องเที่ยวและทัวร์ต่างๆจะให้ ซึ่งก็สามารถเจรจากันได้ตามความเหมาะสม สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาพักผ่อนและต้องการได้สัมผัสใกล้ชิดกินอยู่กับช้างแสนรู้ สามารถติดต่อมาได้ที่เบอร์โทรศัพท์ หมายเลข 087-2417714 นายลี ศาลางาม