"อานนท์ แสนน่าน"เดินหน้าหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นเรารักประเทศไทย หนุนกลุ่มเลี้ยงโคกระบือเนื้อตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง วันนี้ (4 กุมภาพันธ์ 2564) ณ กลุ่มวิสากิจชุมชนผู้เลี้ยงโคกระบือเนื้อตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ม.2 บ้านแดงหม้อ ต.แดงหม้อ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี ผศ.ดร.อานนท์ แสนน่าน ประธานเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นเรารักประเทศไทย ,นางนิตยา นาโล รองประธานเครือข่ายฯหัวหน้าภาคอีสาน ,นายศักดิ์ชาย พรหมโท ประธานผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยคณะประธานเครือข่ายฯ ต่างๆ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนร่วมประชาชน ร่วมประชุม"ขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จาก “ร.9 ถึง ร.10 สู่ผองไทยทั่วแหล่งหล้า สืบสาน รักษา ต่อยอด สร้างสุขปวงประชา” และลงพื้นที่ดูการเลี้ยงโคกระบือพันธุ์เนื้อเพื่อจำหน่าย ของกลุ่ม "ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย" หรือ "ผรท." ตามหลักกรมปศุสัตว์จนประสบความสำเร็จสามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ ให้กับเกษตรกรสร้างรายได้ในสภาวะไวรัสโควิค 19 ระบาดเป็นอย่างดี ผศ.ดร.อานนท์ แสนน่าน ประธานหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นเรารักประเทศไทย เปิดเผยว่า วันนี้พวกเราเกษตรกรได้ร่วมประชุมและดูการเลี้ยงโคกระบือพันธุ์เนื้อ ของกลุ่มเกษตรกร "ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย" หรือ "ผรท." ออกมาขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จาก “ร.9 ถึง ร.10 สู่ผองไทยทั่วแหล่งหล้า สืบสาน รักษา ต่อยอด สร้างสุขปวงประชา” และต้องการส่งเสริมความรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชนส่งเสริมและพัฒนา เศรษฐกิจฐานรากให้มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ โดยสนับสนุนให้มีการจัดทำและใช้ประโยชน์จากข้อมูลสารสนเทศ ศึกษาวิเคราะห์ วิจัย จัดทำยุทธศาสตร์ชุมชน ตลอดจนการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาชุมชน ได้กำหนดหน้าที่ ประการหนึ่งในการพัฒนาระบบและกลไกในการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ การจัดการความรู้ การอาชีพ การออมและการบริหารจัดการเงินทุนของชุมชนเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถ ของชุมชน ผู้นำชุมชน องค์การชุมชนและเครือข่ายองค์การชุมชน บริหารจัดการให้ชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน เนื่องจากกระบวนการพัฒนาชุมชนมีความสอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง คือปฏิบัติงานตามหลัก ความพอประมาณ ความมีเหตุผล สร้างภูมิคุ้มกันที่ดี ด้วยการใช้ความรู้ ความชอบธรรมและคุณธรรม ทำให้ชุมชนพึ่งตนเองบนความพอเพียง โดยบูรณาการการทำงานร่วมกันในทุกกรมและรัฐวิสาหกิจ โดยเฉพาะกรมการปกครอง และกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น นายอานนท์ กล่าวอีกว่า ทางกลุ่มจึงได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาขยายผลในกระบวนการทำงาน เป็น 3 ระดับ คือ ระดับ “พออยู่” เป็นต้นแบบในการใช้ชีวิตพึ่งตนเอง เน้นการปฏิบัติทำกิน ทำใช้ในครัวเรือน เพื่อลดรายจ่าย เพิ่มรายได้และมีการออม ระดับ “อยู่ดี กินดี” เป็นต้นแบบในการบริหารจัดการพัฒนาในรูปกลุ่ม การพัฒนารายได้ด้วยระบบกลุ่ม เพื่อเพิ่มรายได้และขยายโอกาสคนในชุมชน และ ระดับ “มั่งมี ศรีสุข” เป็นต้นแบบการบริหารการพัฒนาในรูปแบบองค์กรเครือข่าย เพื่อใช้ศักยภาพในการดำเนินการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน เพื่อขยายโอกาสในการประกอบอาชีพและส่งเสริมการจัดสวัสดิการในกับคนในหมู่บ้านชุมชน.