เมื่อวันที่ 3 ก.พ.64 พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. พ.ต.อ.มนตรี เทศขัน รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก 5 บก.ป. พ.ต.ต.ธีระยุทธ ไทยราช สว.กก.5 บก.ป. ร.ต.อ.ธีระพงษ์ คงเขียว รอง สว.กก.5 บก.ป. ร่วมกันจับกุมนายภูวดล อายุ 25 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ จ.125/2563 ลงวันที่ 18 มี.ค.63 ในข้อกล่าวหา ร่วมกันชิงทรัพย์และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ได้ที่บ้านพักหมู่ 8 ต.ท้ายสำเภา อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 มี.ค.2563 นายภูวดล (ผู้ต้องหา)ร่วมกับนายเอ เพื่อนคนสนิท ได้ใช้รถจยย. เป็นพาหนะขับติดตามนายแบ็ค ผู้เสียหายโดยมีนายเอทำหน้าที่เป็นผู้ขับรถนายภูวดล นั่งซ้อนท้ายเมื่อถึงแยกนาป่า หมู่ 6 ต.มะม่วงสองต้น อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นายเอ ได้ขับรถเข้าประชิดทางด้านขวาของผู้เสียหาย จากนั้นนายภูวดล ได้ใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวมาด้วยจี้บังคับให้ผู้เสียหายขับรถเลี้ยวเข้าซอยแยกนาป่า ข้ามถนนเลียบทางรถไฟไปประมาณ 100 เมตร แล้วบังคับให้ผู้เสียหายจอดรถ นายภูวดล ได้ค้นตัวผู้เสียหายจนกระทั่งได้เงินสด 8,000 บาท แล้วชิงเอารถจยย. ของผู้เสียหายไป จากนั้นได้แยกย้ายกับนายเอ ขับรถจยย.หลบหนีไปคนละทาง ต่อมาผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราชจากการตรวจสอบพบว่าผู้เสียหายค้างหนี้นายภูวดลฯ ซึ่งเป็นค่ายาไอซ์ ราคา 1,500 บาท จึงเป็นสาเหตุให้นายภูวดลฯโกรธแค้น จึงได้ก่อเหตุดังกล่าว จนกระทั่งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบสวนทราบว่านายภูวดลฯ หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.ท้ายสำเภา อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช จึงเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อพบตัวผู้ต้องหาจึงได่แสดงตัวและเข้าทำการจับกุมตัว นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ดำเนินคดีตามกฎหมาย จากการสอบถามในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา