แม้ว่า “จังหวัดตรัง และจังหวัดพัทลุง” จะถูกจัดแบ่งการบริหารในกลุ่มจังหวัดต่างกัน แต่ด้วยลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่มีพื้นที่ติดกัน โดยมีเขาพับผ้า เทือกเขาบรรทัด เป็นเส้นแบ่งเขตแดน แต่ความสัมพนธ์ที่ดีต่อกันระหว่างประชาชนจังหวัดตรัง และพัทลุง มีกันอย่างแนบแน่นมาตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ย่าตายาย มีการแลกเปลี่ยนย้ายถิ่นฐานเสมือนคนในครอบครัวเดียวกัน โดยที่ จังหวัดตรัง ตั้งอยู่บนฟากฝั่งทะเลอันดามัน ขณะที่จังหวัดพัทลุง อยู่บนฟากทะเลอ่าวไทย กระนั้นไม่ได้ส่งผลให้การดำรงชีวิตของประชาชนมีความแตกต่างกัน ยังคงยึดมั่นถือมั่นในวัฒนธรม ศิลปะ ประเพณี รวมทั้งภูมิปัญญาท้องถิ่นมาจนถึงปัจจุบัน มีการพัฒนาความเจริญก้าวย่างอย่างช้าๆและเรียบง่าย ไม่ว่าจะเป็น ด้านเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยวฯลฯ โดยเฉพาะการท่องเที่ยว เป็นหนึ่งตัวชี้วัดในการที่จะตอบโจทย์ต่อการพัฒนา และรายได้ของจังหวัดได้เป็นอย่างดี ดังนั้นที่ผ่านมา จึงสังเกตให้เห็นว่า เมืองท่องเที่ยวต่างๆ มักจะจัดให้มีคำขวัญการท่องเที่ยวของจังหวัด เพื่อเสนอเป็นจุดขายให้นักท่องเที่ยวรู้จักจังหวัดในเบื้องต้น และเดินทางเข้าท่องเที่ยวค้นหาความจริง เช่น จังหวัดตรัง มีการตั้งสโลแกนท่องเที่ยวว่า “ เมืองพระยารัษฎา ชาวประชาใจกว้าง หมูย่างรสเลิศ ถิ่นกำเนิดยางพารา เด่นสง่าดอกศรีตรัง ปะการังใต้ทะเล เสน่ห์หาดทรายงาม น้ำตกสวยตระการตา” ขณะที่ จังหวัดพัทลุง ใช้สโลแกนว่า “เมืองหนังโนราห์ อู่นาข้าว พราวน้ำตก แหล่งนกน้ำ ทะเลสาบงาม เขาอกทะลุ น้ำพุร้อน” ที่สะท้อนให้เห็นภาพความเป็นอัตลักษณ์ของเมืองท่องเที่ยวอย่างแจ่มชัด ทั้งจังหวัดตรังและพัทลุง ถือเป็นจังหวัดบ้านพี่เมืองน้อง ที่ประชาชนมีความสัมพันธ์เสมือนญาติพี่น้องที่ดีต่อกัน การดำเนินกิจกรรมต่างๆมีการสร้างสัมพันธ์เชื่อมโยงมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว มีการจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อม 2 ฝั่งทะเล ไปตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆทั้ง 2 จังหวัด รวมถึงการจัดทำเส้นทางจักรยานเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกด้วย ล่าสุดทาง “จังหวัด สำนักงานการท่องเที่ยวกีฬา และชมรมกีฬาจักรยานจังหวัด” ตรัง และพัทลุง ได้มีการจัดกิจกรรร่วมกัน ภายใต้ชื่อ ““ปั่นชมเมืองเชื่อมสัมพันธ์” ปั่น กิน เที่ยว บ้านพี่เมืองน้อง “ตรัง- พัทลุง” ขึ้นในวันที่ 27 สิงหาคม 2560 เริ่มสตารท์จาก “ Trang Andamam Gateway” (ตรัง อันดามัน เกตเวย์) ตั้งอยู่ภายในเขาพับผ้า เขตอนุรักษ์พันธ์สัตว์ป่าเขาปู่เขาย่า (เทือกเขาบรรทัด) ต.ช่อง อ.นาโยง จ.ตรัง สิ้นสุด ณ ลานสวนหมาก ควันหมุย หมุย ต.ร่มเมือง อ.เมือง จ.พัทลุง รวมระยะทาง 53 กิโลเมตร โดยมี นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กับ นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เป็นหัวหน้าคณะ “ปั่นน่อง สองล้อ” ในครั้งนี้ ศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง สาธยายให้ฟังว่า ที่ผ่านมาตนประกาศให้จังหวัดตรังเป็น “เมืองจักรยาน- Slow Life Style Trang” ด้วยเหตุผลที่ว่าประชาชนให้ความสนใจและหันมาปั่นจักรยานกันเป็นจำนวนมาก และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จังหวัดตรังโชคดีที่เส้นทางการปั่นจักรยานที่เหมาะสม สองฟากฝั่งถนน เต็มไปด้วยมีวิวทิวศัทน์ที่งดงาม บรรยากาศดี ธรรมชาติบริสุทธิ์ ด้วยการจัดกิจกรรมปั่นกิจกรรมมาอย่างต่อเนื่อง จึงมีความคิดว่า น่าจะมีกิจกรรมปั่นจักรยานเหย้าเยือนไปยังจังหวัดใกล้เคียง สุดท้ายจึงจัดให้มีกิจกรรมจะปั่นเหย้าเยือนจังหวัดพัทลุง ภายใต้กิจกรรม “ปั่นชมเมืองเชื่อมสัมพันธ์” ปั่น กิน เที่ยว บ้านพี่เมืองน้อง “ตรัง- พัทลุง “สัมผัสเส้นทางประวัติศาสตร์ ความเป็นธรรมชาติบนเขาพับผ้า แวะชมปลาหวดที่น้ำตกเขาคราม สู่การรำลึกอุทยานประวัติศาสตร์ถังแดง พร้อมทั้งร่วมชิม รับประทานอาหารพื้นบ้านและผลไม้ตามฤดูกาลจังหวัดพัทลุง เป็นกิจกรรมปั่นจักรยานบรรยากาศแบบชิวๆ ประการสำคัญเป็นการสร้างความรักความสามัคคี การรู้จัดกัยระหว่างนักปั่นจักรยานทั้ง 2 จังหวัด เป็นการสร้างมิตรภาพที่ไม่มีขอบเขต เรามีน้ำใจด้วยกัน ระหว่างตนกับผู้ว่าจังหวัดพัทลุง การปั่นเชื่อมความสัมพันธ์ 2 ฝั่งทะเล ตรัง-พัทลุง เป็นการกระตุ้นว่า ทั้งสองจังหวัดมีชมรมจักรยาน ซึ่งมีการจัดกิจกรรมตลอดเวลา จึงมีการประสานความรวมมือระหว่างชมรมกีฬาจักรยาน สำนักงานการท่องเที่ยวกีฬา ทั้ง 2 จังหวัด จัดกิจกรรมในครั้งนี้ซึ่งจะดังไปทั่วประเทศ” นายศิริพัฒ กล่าว นายศิริพัฒ บอกว่า กิจกรรมการปั่นฯ ระหว่างจังหวัด เป็นภาพที่ไม่ค่อยจะเห็นกัน ความเป็นธรรมชาติที่สามารถเก็บเกี่ยวแต่งเติมความสุขให้กับนักปั่นจักรยานได้อย่างเต็มอิ่ม อีกทั้งยังได้สัมผัสถึงความเป็นประเพณี ศิลปวัฒนธรรม ท้องถิ่นทั้ง 2 จังหวัด จุดขายไม่ว่าจะเป็นจังหวัดพัทลุง ฝั่งอ่าวไทย และจังหวัดตรังฝั่งอันดามัน เป็นสิ่งที่ดี ต่อไปจะมีการปั่นเชื่อมจังหวัดสตูล กระบี่ และนครศรีธรรมราช ตรัง-พัทลุง อยู่ใกล้กัน ข้ามภูเขาก็ถึงกันแล้ว จึงอยากให้มีความสานสัมพันธ์ต่อกัน เรามีการท่องเที่ยวที่ไม่ต้องแข่งขันกัน เป็นการเดินไปพร้อมๆกัน ดังนั้นการผนึกกำลังร่วมกัน จะสร้างความเข้มแข็งให้เกิดขึ้นทั้ง2 จังหวัด ไม่ว่า จะเป็นด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และถ้าจังหวัดตรัง ทำเป็นเครือข่ายโดยให้จังหวัดตรังเป็นศูนย์กลาง ไม่ว่าจะลงทางใต้ ทางตะวันออก อีสาน เหนือ จะทำให้จังหวัดตรังเป็นแม่งานเมืองจักรยานอย่างแท้จริง วันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ขณะที่ นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง บอกว่า กิจกรรมปั่นจักรยานฯ เริ่มจาก Trang Andamam Gateway (ตรังอันดามันเกตเวย์ เขาพับผ้า ต.ช่อง อ.นาโยง จ.ตรัง สู่จังหวัดพัทลุง ผ่านเส้นทางประวัติศาสตร์เขาพับผ้า จากนั้นชมฝูงปลาหวด น้ำตกขาคราม ที่มีการอนุรักษ์ ใครจับจะถูกปรับตัวละ 500 บาท จากนั้นปั่นสู่ อุทยานประวัติศาสตร์ถังแดง จุดไฮไลต์ที่ควรค่าต่อการศึกษาเรียนรู้ “สำหรับ ประวัติความเป็นมาของ อุทยานประวัติศาสตร์ถังแดง เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2508 ณ บ้านเกาะหลุง หมู่ 1 ต.ลำสินธุ์ อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง เป็นทั้งเรื่องราว ตำนาน และคำกล่าวขานถึง “อุทยานประวัติศาสตร์ถังแดง” ของความไม่เท่าเทียมและความต่างทางอุดมคติ จนเกิดความขัดแย้งรุนแรงนำไปสู่การเผชิญหน้าระหว่าง "รัฐกับประชาชน" กลายเป็นหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์เลือดและการเมืองของด้ามขวานทอง จนเกิดความขัดแย้งรุนแรงนำไปสู่การเผชิญหน้าระหว่าง "รัฐกับประชาชน" กลายเป็นหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์เลือดและการเมืองของด้ามขวานทอง จากวันนั้นเมื่อปี พ.ศ. 2508 “บ้านเกาะหลุง”ชุมชนเล็กที่ชาวบ้าน มีวิถีชีวิตที่สงบเงียบ ต่อมาสภาพสังแปรเปลี่ยนมีโจรผู้ร้าย บ่อนการ อบายมุขและสิ่งผิดกฎหมายแทรกซึมเข้าหมู่บ้าน ขณะที่กฎหมายกลับเข้าไม่ถึง ชาวบ้านไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร จึงรวมตัวกันลุกขึ้นต่อสู้ เพื่อชีวิตและทรัพย์สินตลอดจนสวัสดิภาพของตัวเองและครอบครัว โดยที่ชาวบ้านรวมตัวจับอาวุธต่อสู้สู้กับโจร ภาครัฐมองชาวบ้านด้วยสายตาหวาดระแวง ส่งเจ้าหน้าที่จับกุมชาวบ้านแกนนำไปสอบปากคำ ระยะหลังๆ เริ่มมีการกักขังทำร้ายร่างกาย ที่ถูกกล่าวขานและกลายเป็นตำนานคดีถังแดง คือ การใช้ผ้าปิดตานำตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินต่ำก่อนจะถีบลงมา หากคนไหนไม่ตอบคำถามหรือได้รับคำตอบไม่เป็นที่พอใจก็จะจับขึ้นเฮลิคอปเตอร์ อีกครั้งแล้วถีบลงมาอีก ไม่ว่าจะเป็นหรือตายจะถูกนำไปยัดใส่ถังน้ำมันขนาด 200 ลิตรแล้วจุดไฟเผาอย่างโหดเหี้ยม “วันนี้คดีถังแดงแผ่นดินเลือดในอดีตได้กลายเป็น "อุทยานประวัติศาสตร์ถังแดง" ตั้งอยู่บนผืนดินที่ซื้อจากเงินบริจาคของชาวบ้าน บนเนื้อที่ 4 ไร่ 1 งาน กลายเป็นสถานศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์การต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมและวิถี ชุมชน นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ภายใต้การจัดการที่เข้มแข็งของกลุ่มเครือข่ายสินธุ์แพรทอง มีโฮมสเตย์ไว้ต้อนรับบุคคลภายนอกที่จะไปเรียนรู้วัฒนธรรมและการต่อสู้ ณ ที่แห่งนี้ด้วย” นายวันชัย เล่าประวัติความเป็นมาอุทยานประวัติศาสตร์ถังแดงฉบับย่อให้ฟัง “การดำเนินกิจกรรมปั่นจักรยานของจังหวัดพัทลุง มีการจัดตั้งชมรมจักรยานเป็นกลุ่มก้อน และกิจกรรมในครั้งนี้ ตนจะเข้าร่วมพร้อมนักปั่นจักรยานจากจังหวัดพัทลุง ประมาณ 300 คน การท่องเที่ยวเดิมตรัง-พัทลุง อยู่คนละการบริหารจัดการอยู่คนละกลุ่มจังหวัด แต่เนื่องจากมีพื้นที่ติดกัน ซึ่งจังหวัดตรัง ได้ทำแหล่งท่องเที่ยวอันดามันเกตเวย์ไปเรรยบร้อยแล้ว พัทลุงเองกำลังดำเนินการก่อสร้างเป็นเกตเวย์ของพัทลุง ปี งบประมาณ 2561 ทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวเดินชมเส้นทางประวัติศาสตร์ เป็นแหล่งเรียนรู้ แหล่งศึกษา ซึ่งขออนุญาตขอใช้พื้นที่จากอนุรักษ์พันธ์สัตว์ป่า เขาปู่เขาย่า หลังจากนี้ ทางจังหวัดพัทลุง จะได้จัดกิจกรรมเหย้าเยือนจังหวัดตรัง เช่นกัน” นายวันชัย แจงให้ทราบ กิจกรรมปั่นจักรยาน ““ปั่นชมเมืองเชื่อมสัมพันธ์”ปั่น กิน เที่ยว บ้านพี่เมืองน้อง “ตรัง- พัทลุง” เกิดจากประกายความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนทั้ง 2 จังหวัด ที่เกิดจากความตั้งใจของการสานความร่วมมือในอันที่กระชับความร่วมมือสร้างความเป็นเมือง “บ้านพี่ เมืองน้อง” ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวตามเส้นทาง “จักรยาน 2 ฝั่งทะเล” ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป เรื่อง: จิรศักดิ์ จาตุพรพิพัฒน์