ปาฏิหาริย์ “เจ้าปู่องค์ดำแสนศิริจันทรานาคราช” ปรากฏกายเป็นแสงคลายพญานาคขณะทำพิธีถวายและเบิกเนตรปู่ฤาษี ทางเข้าเมืองลับแล “ถ้ำวังนาคินทร์” ภูลังกาสถานศักดิ์สิทธิ์ผู้ปกปักรักษาเทือกเขาริมโขง ชาวบ้านแห่ขอพรได้ผลดั่งใจหวัง วันนี้ (1 กุมภาพันธ์ 2564) ณ ถ้ำวังนาคินทร์ วัดป่ากินรี ต.โพธิ์หมากแข้ง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ เขตอุทยานแห่งชาติภูลังกา ผศ.ดร.อานนท์ แสนน่าน ประธานเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นเรารักประเทศไทย, นางนิตยา นาโล รองประธานเครือข่ายฯ หัวหน้าภาคอีสาน ,นายศักดิ์ชาย พรหมโท ประธานผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยคณะประธานเครือข่ายฯ ต่างๆ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และ กลุ่มอนุรักษ์นำเที่ยวถ้ำวังนาคินทร์ รวมกันเพื่อเดินทางขึ้นไปบนปากทางเข้าเมืองบลับแล “ถ้ำวังนาคินทร์” เพื่อถวายและเบิกเนตร “เจ้าปู่ฤาษีองค์ดำแสนศิริจันทรานาคราช” พร้อมกับทำพิธีบวงสรวงขอพร “เจ้าปู่ฤาษีองค์ดำแสนศิริจันทรานาคราช” หรือชาวบ้านแถบนี้เรียกขานนามว่า “เจ้าปู่ดำนาคราช” พญานาคผู้เฝ้า "ถ้ำวังนาคินทร์" แห่งนี้ที่มีบริวารมากมาย ทั้งพญานาค พญากินรี พญาสิงห์ พญาเสือ และ พญางูจงอาง ที่ปกปักรักษาสัตว์ป่า และ มนุษย์ บนเทือกเขาภูลังกาแห่งนี้ โดยมี “พระปลัดสุรัตน์ อินทรปัญโญ” พระเกจิอาจารย์เจ้าอาวาสวัดป่ากินรี นำสวดมนต์และเบิกเนตร “เจ้าปู่ฤาษีองค์ดำแสนศิริจันทรานาคราช” หรือชาวบ้านแถบนี้เรียกขานนามว่า “เจ้าปู่ดำนาคราช” เสร็จพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนาแล้ว ต่อจากนั้น ผศ.ดร.อานนท์ แสนน่าน ประธานเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่น เรารักประเทศไทย พร้อมด้วย "จ้ำ" พราหมณ์ดูแลศาลเจ้าปู่ดำนาคราช ได้กล่าวอัญเชิญเจ้าปู่ดำนาคราชและบริวารนาคราชทั้งหลายที่อยู่ใน "ถ้ำวังนาคินทร์" มารับเครื่องสังเวยสักการะบูชาด้วย พญานาคใบตอง 7 เศียรและ 9 เศียร ไข่เป็ด จำนวน 108 ฟอง น้ำแดงน้ำเขียว หมากพลู และเครื่องหวาน เพื่อขอให้หมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนทุกกลุ่มประสบแต่ความสุขความเจริญ ผ่านพ้นภัยวิกฤตเศรษฐกิจโควิด-19 ได้รับจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลช่วยเหลือเกษตรกรอย่างถ้วนหน้าในช่วงปีใหม่ 2564 นี้ สำหรับ “วังนาคินทร์” แห่งนี้มีการค้นพบมานานนับหลายปีแล้ว แต่พึ่งมีกระแสและนักท่องเที่ยวให้ความสนใจช่วงหลังจาก "ถ้ำนาคา" ได้เผยแพร่ออกไป เพราะ "ถ้ำวังนาคิน" จะมีระยะทางขึ้นไม่สูงชันนักแต่ตลอดเส้นทางในการเดินทางก่อนจะขึ้นไปถึงสันเขาภูลังกา จะมีถ้ำและศาล “เจ้าปู่องค์ดำแสนศิริจันทรานาคราช" หรือ “เจ้าปู่ดำนาคราช" ผู้ดูแล "วังนาคินทร์" เป็นจุดแรกให้ มนุษย์ และ สัตว์ ได้กราบไหว้และเป็น "ประตูสู่เมืองลับแล" ซึ่งมีลายหินพญานาคคดเขี้ยวล้อมรอบปากถ้ำอยู่ 2 ตน ที่ถูกสาปให้เป็นหิน เดินขึ้นไปเพียงไม่กี่เมตรก็จะเห็นหินที่มีลักษณะเหมือน หัวพญาสิงโต และ หัวพญาเสือ ตลอดเส้นทางก็จะมี "เศียรพญานาค" ที่ถูกสาปเป็นหินและยังคงสภาพที่สมบูรณ์ ให้เห็นเป็นจุดๆ นอกจากนั้นแล้วยังมีป่าเขาและต้นไม้ที่ยังอุดมสมบูรณ์ก่อนที่จะขึ้นไปยัง "น้ำตกกินรี" และ"หินโลมา" เราจะพบเห็นลานฟัก "ไข่พญานาค" ที่ถูกสาปเป็นก้อนหินกระจัดกระจายไปตามจุดต่างๆ เชื่อกันว่า "พญานาค" สามารถผสมพันธุ์กับสัตว์ชนิดอื่นได้ แปลงกายแล้วผสมพันธุ์กับมนุษย์ได้ เมื่อนาคตั้งท้องจะออกลูกเป็นไข่เหมือนงู มีทั้งพันธุ์เศียรเดียว 3, 5 และ 7 เศียร สามารถขึ้นลง ตั้งแต่ใต้บาดาลพื้นโลก จนถึงสวรรค์ ในทุกตำนานมักจะกล่าวถึงนาคที่ขึ้น-ลง ระหว่างเมืองบาดาล กับเมืองสวรรค์ ที่จะแปลงกายเป็นอะไรตามที่คิด ตามสภาวะเหตุการณ์นั้นๆ ต่อจากนั้นจึงจะเป็นเส้นทางที่เดินขึ้นสู่หินโลมา ซึ่งจะเดินผ่านน้ำตกกินรีทั้ง 3 ชั้นมาจนถึงชั้นที่ 4 ระหว่างทางจะได้พบกับความงดงามของธรรมชาติ น้ำตกสวยกลางป่าใหญ่ที่กำลังงดงามในช่วงหน้าฝน มองไปทางไหนก็เห็นแต่ความเขียวขจีสดชื่นไปหมด ซึ่งบริเวณจุดนี้จะมีชั้นหินที่สลับซับซ้อนเป็นรูปทรงคล้ายกับหัวของโลมาหลายๆ ตัว หันหน้ามาสุมกันอยู่ตรงกลาง เป็นมุมที่ดูแล้วน่ารักเป็นอย่างมาก มีรายงานว่า ขณะที่มีการเบิกเนตร “เจ้าปู่ฤาษีองค์ดำแสนศิริจันทรานาคราช” หรือชาวบ้านแถบนี้เรียกขานนามว่า “เจ้าปู่ดำนาคราช” ทางชาวบ้านได้ถ่ายภาพหนองน้ำกินรีจากฝั่งทาง “วัดป่ากินรี” มาทาง “ถ้ำวังนาคินทร์” ได้มีแสงประหลาดปรากฏขึ้นมามีลักษณะคล้ายพญานาคองค์ใหญ่โผล่ขึ้นมาจากหนองน้ำแห่งนี้ สร้างความตกใจกับผู้คนที่ได้ดูภาพนี้จากการแสดงปาฏิหาริย์ของเจ้าปู่ดำนาคราช เพื่อประกาศแสนยานุภาพให้มนุษย์ได้เห็น เป็นการส่งสัญญาณในการปกป้องรักษาป่าไม้แห่งนี้และแสดงถึงอำนาจความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พญานาคราชที่ปกปักษ์รักษาพื้นป่าเขาบนภูลังกาแห่งนี้อีกด้วย.