เผยไทม์ไลน์ผู้ป่วยที่ จ.มหาสารคาม ติดตามผู้สัมผัสเสี่ยง 110 ราย พบผลบวก 5 ราย ในขณะที่กทม.ยังพบผู้ป่วยต่อเนื่องทุกวัน แต่แนวโน้มลดลงแม้ยอดสะสมยังสูงมาจากกรณีงานเลี้ยงวันเกิดที่โรงแรมสองแห่ง ซึ่งได้รับรายงานว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มเป็น 30 รายแล้ว และพบประชาชนย่อหย่อนมาตรการทำให้มีการติดเชื้อในกลุ่มเพื่อน คนใกล้ชิดมากขึ้น และเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาด ย้ำว่าแม้จะเริ่มผ่อนคลายมาตรการแล้ว แต่ทุกฝ่ายต้องให้ความร่วมมือปฏิบัติตามหลักสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
30 ม.ค.2564 นพ.เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค รายงานสถานการณ์ และความคืบหน้าผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในประเทศไทยว่า ไทยผู้ป่วยโควิด-19รายใหม่ จำนวน 930 ราย โดยแบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 916 ราย คือ ผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 27 ราย ซึ่งทั้งหมดมีประวัติไปสถานที่เสี่ยงอื่น มีอาชีพเสี่ยง หรือสัมผัสผู้ป่วยก่อนหน้านี้ รวมทั้งอยู่ระหว่างสอบสวนโรค และค้นหาเชิงรุกอีก 889 ราย นอกจากนี้ยังมีติดเชื้อจากต่างประเทศ 14 ราย โดยเข้าสถานที่กักกันทุกประเภท 11 ราย เป็นผู้เดินทางจากต่างประเทศกรณีอื่นๆอีก 3 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 17,953 ราย ทั้งนี้จะเห็นว่าตลอดในช่วงสัปดาห์นี้ตัวเลขผู้ป่วยเป็นตัวเลข 3 หลักตลอด ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการค้นหาเชิงรุกที่ดำเนินการไปอย่างเข้มข้น เป็นที่มาของผู้ป่วยรายใหม่ 700 - 900 รายต่อวัน ส่วนสถานการณ์ทั่วโลกจะเห็นว่าตัวเลขผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 1 ล้านรายภายใน 2 วัน สหรัฐอเมริกายังคงเป็นอันดับ 1 ส่วนสถานการณ์ในเอเชีย อินโดนีเชีย มีการติดเชื้อเกินหมื่นราย และมาเลเซีย ผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ดังนั้นประชาชนยังต้องดูแลตัวเองตามหลักชีวอนามัยอย่างเคร่งครัด ดูแลผู้สูงอายุในครอบครัว โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว และเลี่ยงการรับประทานอาหารร่วมกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นช่วงที่มีโอกาสติดเชื้อเพราะไม่ได้สมหน้ากาก มีการพูดคุยกัน
นพ.เฉวตสรร ยกตัวอย่างเคสการระบาดกลุ่มก้อนผู้ป่วยเชื่อมโยงบริษัทผลิตอุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์ย่านแสมดำในรายที่เป็นพนักงานหญิงอายุ 39 ปี ที่เริ่มมีอาการป่วยเมื่อวันที่ 23 ม.ค.64 แล้วแพร่เชื้อต่ออีก 3 ราย โดย 2 คนแรกเป็นคนในครอบครัว คือ แม่อายุ 63 ปี ที่อยู่บ้าน มีโรคประจำตัวคือเบาหวานและความดันโลหิตสูง และลูกชายอายุ 12 ปี แต่ไม่มีอาการ อีกรายเป็นเพื่อนพนักงานอายุ 39 ปี แต่ไม่มีอาการ หลังสอบสวนโรคพบว่า เมื่อวันที่ 16 และ 21 ม.ค.64 ได้พบกับชายอายุ 34 ปี อาชีพขายของออนไลน์ ซึ่งมีอาการป่วยเมื่อวันที่ 14 ม.ค.64 โดยได้พูดคุยกันนานราว 3 ชั่วโมง และชายคนนี้ยังไปพบกับเพื่อนขายของออนไลน์เป็นชายอายุ 18 ปี ซึ่งมีอาการป่วยเมื่อวันที่ 18 ม.ค.64 เช่นเดียวกันกับเคสการระบาดกลุ่มก้อนในจังหวัดมหาสารคามจากชายอายุ 46 ปี ที่เดินทางกลับมาจากกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 3 ม.ค.64 ต่อมาวันที่ 10 ม.ค.64 เริ่มมีอาการไข้, 18 ม.ค.64 ปวดเมื่อยตามตัว, 23 ม.ค.64 มีไข้ปวดเมื่อยจึงไปพบแพทย์ ผลตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 27 ม.ค.64 ซึ่งมีผู้สัมผัสเสี่ยง 110 ราย ผลตรวจพบผู้ติดเชื้อเป็นภรรยาและเพื่อนที่ไปกินโต๊ะแชร์รวม 7 ราย อย่างไรก็ตามจะเห็นว่าทั้ง 2 เคสนี้มีการระบาดไปยังผู้ใกล้ชิด คนในครอบครัว ดังนั้นแม้ว่าจะเริ่มผ่อนคลายมาตรการแล้ว แต่ทุกฝ่ายต้องให้ความร่วมมือปฏิบัติตามหลักสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โหลดแอปพลิเคชั่นไทยชนะและหมอชนะ ต้องไม่พาตนเองไปในพื้นที่เสี่ยง งดกิจกรรมเสี่ยง ต้องดูแลตัวเองต่อไปโดยไม่รู้สึกเบื่อหน่ายจนกว่าจะมั่นใจว่ามาตรการต่างๆ ที่มีอยู่สามารถหยุดยั้งการระบาดได้แล้วนี่คือสิ่งที่ขอฝากไปถึงประชาชน
ด้าน นพ.วิชาญ ปาวัน ผู้อำนวยการสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กล่าวถึงสถานการณ์การติดเชื้อในพื้นที่กทม.ว่า ยังพบผู้ป่วยติดเชื้อต่อเนื่องทุกวัน แต่เริ่มมีแนวโน้มลดลง ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามียอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้น สืบเนื่องมาจากกรณีงานเลี้ยงวันเกิดที่โรงแรมสองแห่ง ซึ่งได้รับรายงานว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มเป็น 30 ราย โดยผู้ป่วยในสถานกักกันของรัฐเฉลี่ยอยู่ที่ 5-10 ราย/วัน ผู้ป่วยติดเชื้อที่มีประวัติเชื่อมโยงกับจังหวัดสมุทรสาครมีปละปลาย ไม่ได้เป็นกลุ่มก้อนใหญ่ ผู้ป่วยติดเชื้อที่มีประวัติเชื่อมโยงกับสถานบันเทิงไม่มีแล้ว ผู้ติดเชื้อในชุมชนที่มีคนต่างด้าวมีปละปลายและเชื่อมโยงกับผู้ป่วยก่อนหน้านี้ ขณะที่ผู้ป่วยติดเชื้อที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มเพื่อนมีรายงานเพิ่มขึ้น อาจเกิดจากความย่อหย่อนในการดูแลตัวเอง และเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาด อย่างไรก็ตามที่ผ่านมามีการสุ่มตรวจโรงงานที่มีแรงงานต่างด้าวในเขตบางขุนเทียน บางแค หนองแขม บางบอน และภาษีเจริญ ราว 40 แห่ง พบผู้ติดเชื้อในโรงงาน 4 แห่ง ในเขตบางขุนเทียน บางบอน และภาษีเจริญ แต่ปัจจุบันแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อเริ่มนิ่ง แต่ยังต้องเฝ้าระวังต่อไปจนกว่าจะครบกำหนด 14 วัน และจะสุ่มตรวจคัดกรองในกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสสัมผัสกับแรงงานต่างด้าวเพิ่มเติม เพื่อป้องการติดเชื้อหลบซ่อนในชุมชน
30 ม.ค.2564 นพ.เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค รายงานสถานการณ์ และความคืบหน้าผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในประเทศไทยว่า ไทยผู้ป่วยโควิด-19รายใหม่ จำนวน 930 ราย โดยแบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 916 ราย คือ ผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 27 ราย ซึ่งทั้งหมดมีประวัติไปสถานที่เสี่ยงอื่น มีอาชีพเสี่ยง หรือสัมผัสผู้ป่วยก่อนหน้านี้ รวมทั้งอยู่ระหว่างสอบสวนโรค และค้นหาเชิงรุกอีก 889 ราย นอกจากนี้ยังมีติดเชื้อจากต่างประเทศ 14 ราย โดยเข้าสถานที่กักกันทุกประเภท 11 ราย เป็นผู้เดินทางจากต่างประเทศกรณีอื่นๆอีก 3 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 17,953 ราย ทั้งนี้จะเห็นว่าตลอดในช่วงสัปดาห์นี้ตัวเลขผู้ป่วยเป็นตัวเลข 3 หลักตลอด ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการค้นหาเชิงรุกที่ดำเนินการไปอย่างเข้มข้น เป็นที่มาของผู้ป่วยรายใหม่ 700 - 900 รายต่อวัน ส่วนสถานการณ์ทั่วโลกจะเห็นว่าตัวเลขผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 1 ล้านรายภายใน 2 วัน สหรัฐอเมริกายังคงเป็นอันดับ 1 ส่วนสถานการณ์ในเอเชีย อินโดนีเชีย มีการติดเชื้อเกินหมื่นราย และมาเลเซีย ผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ดังนั้นประชาชนยังต้องดูแลตัวเองตามหลักชีวอนามัยอย่างเคร่งครัด ดูแลผู้สูงอายุในครอบครัว โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว และเลี่ยงการรับประทานอาหารร่วมกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นช่วงที่มีโอกาสติดเชื้อเพราะไม่ได้สมหน้ากาก มีการพูดคุยกัน
นพ.เฉวตสรร ยกตัวอย่างเคสการระบาดกลุ่มก้อนผู้ป่วยเชื่อมโยงบริษัทผลิตอุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์ย่านแสมดำในรายที่เป็นพนักงานหญิงอายุ 39 ปี ที่เริ่มมีอาการป่วยเมื่อวันที่ 23 ม.ค.64 แล้วแพร่เชื้อต่ออีก 3 ราย โดย 2 คนแรกเป็นคนในครอบครัว คือ แม่อายุ 63 ปี ที่อยู่บ้าน มีโรคประจำตัวคือเบาหวานและความดันโลหิตสูง และลูกชายอายุ 12 ปี แต่ไม่มีอาการ อีกรายเป็นเพื่อนพนักงานอายุ 39 ปี แต่ไม่มีอาการ หลังสอบสวนโรคพบว่า เมื่อวันที่ 16 และ 21 ม.ค.64 ได้พบกับชายอายุ 34 ปี อาชีพขายของออนไลน์ ซึ่งมีอาการป่วยเมื่อวันที่ 14 ม.ค.64 โดยได้พูดคุยกันนานราว 3 ชั่วโมง และชายคนนี้ยังไปพบกับเพื่อนขายของออนไลน์เป็นชายอายุ 18 ปี ซึ่งมีอาการป่วยเมื่อวันที่ 18 ม.ค.64 เช่นเดียวกันกับเคสการระบาดกลุ่มก้อนในจังหวัดมหาสารคามจากชายอายุ 46 ปี ที่เดินทางกลับมาจากกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 3 ม.ค.64 ต่อมาวันที่ 10 ม.ค.64 เริ่มมีอาการไข้, 18 ม.ค.64 ปวดเมื่อยตามตัว, 23 ม.ค.64 มีไข้ปวดเมื่อยจึงไปพบแพทย์ ผลตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 27 ม.ค.64 ซึ่งมีผู้สัมผัสเสี่ยง 110 ราย ผลตรวจพบผู้ติดเชื้อเป็นภรรยาและเพื่อนที่ไปกินโต๊ะแชร์รวม 7 ราย อย่างไรก็ตามจะเห็นว่าทั้ง 2 เคสนี้มีการระบาดไปยังผู้ใกล้ชิด คนในครอบครัว ดังนั้นแม้ว่าจะเริ่มผ่อนคลายมาตรการแล้ว แต่ทุกฝ่ายต้องให้ความร่วมมือปฏิบัติตามหลักสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โหลดแอปพลิเคชั่นไทยชนะและหมอชนะ ต้องไม่พาตนเองไปในพื้นที่เสี่ยง งดกิจกรรมเสี่ยง ต้องดูแลตัวเองต่อไปโดยไม่รู้สึกเบื่อหน่ายจนกว่าจะมั่นใจว่ามาตรการต่างๆ ที่มีอยู่สามารถหยุดยั้งการระบาดได้แล้วนี่คือสิ่งที่ขอฝากไปถึงประชาชน
ด้าน นพ.วิชาญ ปาวัน ผู้อำนวยการสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กล่าวถึงสถานการณ์การติดเชื้อในพื้นที่กทม.ว่า ยังพบผู้ป่วยติดเชื้อต่อเนื่องทุกวัน แต่เริ่มมีแนวโน้มลดลง ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามียอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้น สืบเนื่องมาจากกรณีงานเลี้ยงวันเกิดที่โรงแรมสองแห่ง ซึ่งได้รับรายงานว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มเป็น 30 ราย โดยผู้ป่วยในสถานกักกันของรัฐเฉลี่ยอยู่ที่ 5-10 ราย/วัน ผู้ป่วยติดเชื้อที่มีประวัติเชื่อมโยงกับจังหวัดสมุทรสาครมีปละปลาย ไม่ได้เป็นกลุ่มก้อนใหญ่ ผู้ป่วยติดเชื้อที่มีประวัติเชื่อมโยงกับสถานบันเทิงไม่มีแล้ว ผู้ติดเชื้อในชุมชนที่มีคนต่างด้าวมีปละปลายและเชื่อมโยงกับผู้ป่วยก่อนหน้านี้ ขณะที่ผู้ป่วยติดเชื้อที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มเพื่อนมีรายงานเพิ่มขึ้น อาจเกิดจากความย่อหย่อนในการดูแลตัวเอง และเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาด อย่างไรก็ตามที่ผ่านมามีการสุ่มตรวจโรงงานที่มีแรงงานต่างด้าวในเขตบางขุนเทียน บางแค หนองแขม บางบอน และภาษีเจริญ ราว 40 แห่ง พบผู้ติดเชื้อในโรงงาน 4 แห่ง ในเขตบางขุนเทียน บางบอน และภาษีเจริญ แต่ปัจจุบันแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อเริ่มนิ่ง แต่ยังต้องเฝ้าระวังต่อไปจนกว่าจะครบกำหนด 14 วัน และจะสุ่มตรวจคัดกรองในกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสสัมผัสกับแรงงานต่างด้าวเพิ่มเติม เพื่อป้องการติดเชื้อหลบซ่อนในชุมชน