เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 28 ม.ค. 64 ร.ต.อ.สาทร   เทพทิตย์  หัวหน้าชุดรถยนต์ 20  ของสภ.ทุ่งหลวง  อ.ปากท่อ  จ.ราชบุรี  ได้ออกตรวจไปตามถนนเลียบคลองชลประทานสาย ซอย 8  วัดเขากิ่ว    พบรถยนต์ต้องสงสัย เป็นรถยนต์ ยี่ห้อ อีซูซุ สีบอรนซ์  หมายเลขทะเบียน ผจ-5069  อุบลราชธานี  ซึ่งมีแค่ป้ายทะเบียนด้านหน้า ส่วนด้านหลังถูกถอดออก  ภายในกระบะมีหลังคาแครี่บอย ทึบ  จอดอยู่ที่หน้าทางเข้าวัดเขากิ่ว  หมู่ 8  ต.ทุ่งหลวง  อ.ปากท่อ  จึงได้เรียกขอตรวจสอบเนื่องแผ่นป้ายทะเบียนด้านหลังไม่ติด  แต่บุคคลในรถนั้นได้พยายามที่จะขับรถหลบหนี  ทางเจ้าหน้าที่จึงได้วิทยุให้สกัดจับ  และสามารถสกัดจับรถคันดังกล่าวได้  ในบริเวณใกล้เคียงกับจุดที่จอดรถครั้งแรก  เมื่อตรวจสอบภายในรถพบชาย 3 คน  ส่วนในกระบะรถพบกรงพลาสติกจำนวน 3 ใบ ภายในมีลูกลิงแสมจำนวน 8 ตัว  และพบกรงดักอีก 1 กรง จึงได้นำทั้งหมดไปให้ ร.ต.อ.ทรงพล   ตันเจริญ   ร้อยเวรได้ทำการสอบปากคำที่สภ.ทุ่งหลวง  พร้อมกับแจ้งยังไปนายทรงฉัตร    ประคัลภานนท์  หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่า เขาประทับช้าง  และนายพจน์  ทับประทุม   หัวหน้าศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 3 (เขาประทับช้าง)  ให้มาร่วมสอบปากคำด้วย  เนื่องจากลูกลิงแสมนั้นถือเป็นสัตว์ป่าสงวน      จากการสอบสวนโดยมี พ.ต.อ.อิทธิพล   พรเทวบัญชา  ผกก.สภ.ทุ่งหลวง  ได้มาร่วมปากคำด้วย  ก็ทราบว่าผู้ต้องหาทั้งสามคนที่จับกุมมาได้  คือนายพรเทพ บัวแพง อายุ 30 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 109 ม.11 ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี     นายอุดม อ้วนคำภา  อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40  ม.3  ต.โซง  อ.น้ำยืน  จ.อุบลราชธานี  และนายพิเชษฐ์  ปัตนาพันธ์   อายุ 32 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 32/31  ม.3  ต.กุฎโง้ง  อ.พนัสนิคม  จ.ชลบุรี   โดยทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า   ได้ออกตระเวณหาแหล่งที่มีลิงจำนวนมาก  จากนั้นก็จะใช้กรงและตาข่ายไปดักจับลูกลิง   โดยไปดักจับที่หน้าถ้ำจอมพล  ใน อ.จอมบึง  จ.ราชบุรี  มาได้ 8 ตัว  และกำลังจะเดินทางมาหาจับลูกลิงที่บริเวณหน้าวัดเขากิ่วอีก   เพื่อนำไปส่งขายให้กับผู้หญิงที่ชื่อกุ้ง  แต่ไม่ทราบชื่อจริง  อยู่ที่อำเภอด่านช้าง  จ.สุพรรณบุรี  โดยจะได้ค่าจ้างตัวละ 8,000   บาท  ซึ่งจะจับลูกลิงส่งให้ครั้งละ 20-30 ตัว  และทราบว่านางกุ้ง  นั้นจะส่งลูกลิงไปขายที่ประเทศเพื่อนบ้าน  ทำมาหลายครั้งแล้ว  แต่ครั้งนี้ก็มาถูกจับเสียก่อน    ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อกล่าว  ล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต  และครอบครองสัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต  พร้อมกับนำตัวไปดำเนินคดีต่อไป