วันที่ 28 ม.ค.64 นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข อดีตนักโทษคดี 112 และแกนนำกลุ่ม 24 มิถุนายน ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุคส่วนตัว โดยระบุว่าเป็น จดหมายเปิดผนึกถึงพรรคก้าวไกล เรียกร้องให้พรรคสอบสวนพฤติกรรมของนายคารม พลพรกลาง ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ที่ออกมายืนยันว่าจะไม่ร่วมลงชื่อในการเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาให้ยกเลิกมาตรา 112
" จดหมายเปิดผนึก
เรื่อง หางโผล่จนได้
เรียน คณะกรรมการบริหารและสส.พรรคก้าวไกลทุกคน
วันที่ 28 มกราคม 2564
ทนายความคารม พลพรกลาง ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ประกาศว่า จะไม่ร่วมลงชื่อในการเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาให้ยกเลิกมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล โดยพูดว่า" แล้วมาบังคับผมไม่ได้ด้วย ผมเคยงดออกเสียงในเรื่องกฎหมายโอนอัตรากำลังพล แต่เมื่อพรรคมีมติผมก็มีมารยาท ผมรู้กติกา ผมรู้ระดับของความรุนแรง ผมจะตอบคำถามอย่างไร ผมมาสาบานตน ผมอ่านรัฐธรรมนูญผมก็เข้าใจ แล้วผมมาเซ็นแก้มาตรา 112 ความคิดในทางกฎหมายผมก็มีความรู้อยู่บ้างว่ามุมมองอะไรอย่างไร แต่สรุปว่าผมไม่เซ็น”
คารม พลพรกลาง เคยมาเป็นทนายความให้ผม ในคดีมาตรา 112 ในปี 2554 แต่พอผ่านไปทางครอบครัวผมก็ขอให้เปลี่ยนทนายความคนใหม่เสีย เพราะว่า ไม่ได้ใส่ใจในการเตรียมต่อสู้คดีอย่างเพียงพอ โดยระบุว่า เป็นเพียงการอาสามาทำคดีคนดังให้ปรากฏต่อสาธารณะ สำหรับผมมิได้แปลกใจมากนัก เพราะการทำคดีมาตรา 112 มันไม่ยุติธรรมในตัวบทกฎหมายอยู่แล้ว ในห้วงเวลานั้น สำหรับทนายความ ย่อมรู้ดีถึงความเลวร้ายในมาตรา 112 เป็นอย่างดี ผมจึงไม่ได้ใส่ใจต่อกรณีของทนายความคารม พลพรกลาง ในบทบาททนายความที่ได้ช่วยทำคดีให้ผม อย่างน้อยผมเห็นว่าถ้าตั้งใจสู้เพื่อความยุติธรรมจริงจะโด่งดังไปด้วยก็ไม่เป็นไร
ผมรับทราบว่า คุณคารม พยายามจะขอลงสมัครรับเลือกตั้งในพรรคเพื่อไทย แต่ถูกปฏิเสธจึงผิดหวังกับพรรคเพื่อไทยแล้วจึงกระโดดมาลงสมัครสส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งผมก็สนับสนุนเต็มที่ เพราะ พรรคอนาคตใหม่ มีนโยบายดีและบุคลากรที่กล้าหาญมากกว่าพรรคการเมืองอื่นโดยเฉพาะในเรื่องการแก้ไขมาตรา 112
จนกระทั่งได้มาฟังความเห็นในครั้งนี้ นั่นแหละ “ ใช่เลย “ ตามความเห็นของคนหลายคนที่ตั้งคำถาม เป็นที่ชวนสงสัยว่า แท้จริงแล้วนายคารม รวมไปถึง ส.ส. ที่ได้เข้ามาเป็นผู้แทนในสภานั้น แต่กลับไปสนับสนุนให้กฎหมายที่เป็นปฏิปักษ์กับประชาชน และประชาธิปไตยสามารถดำรงอยู่ได้ ยังเป็นผู้แทนราษฎรอยู่ หรือกลายเป็นผู้แทนราชสำนักไปแล้วกันแน่ ?(กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย)
การประกาศตนเองไม่ยอมรับมติพรรคก้าวไกลในครั้งนี้ยิ่งตอกย้ำอีกกว่า อยู่กันคนละแบบคนละอุดมการณ์ ด้วยเหตุนี้จึงขอให้กรรมการบริหารพรรคก้าวไกลและสส.ทุกท่านสอบสวนพฤติกรรม ของนายคารม พลพรกลาง ที่ไม่ยอมรับมติพรรค เพื่อกำจัดให้พ้นไปจากพรรคก้าวไกลในที่สุด ทั้งนี้ขอได้โปรดดำเนินการโดยทันที และ แจ้งผลการสอบสวนในทุกขั้นตอนให้ทราบด้วย
ขอให้พรรคก้าวไกลดำรงไว้ซึ่งจุดยืนและอุดมการของพรรคในการต่อสู้เพื่อยกเลิกมาตรา 112 ให้เป็นผลสำเร็จ"
ขอบตุณข้อมูลจากเพจเฟชบุค : Somyot Pruksakasemsuk