บรรยากาศบ้านพักของนายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ที่ตำบลนาสาร อำเภอพระพรหม จังหวัดนครศรีธรรมราช หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้นายเทพไท พ้นสมาชิกภาพเป็นไปด้วยความเงียบเหงาอย่างเห็นได้ชัด มีรถเข้าออกเพียง 2 คันเท่านั้นจากปกติที่มีคนเข้าออกพลุกพล่านปแต่เป็นที่น่าสังเกตว่าป้ายขนาดใหญ่หน้าบ้านของนายเทพไท แสดงภาพของนายเทพไท เสนพงศ์ พร้อมน้องชายคือนายครรชิต เสนพงศ์ และนายพงศ์สินธ์ เสนพงศ์ เพียงเท่านั้น สำหรับต้นคดีที่เป็นเหตุให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายเทพไท เสนพงศ์ พ้นสมาชิกภาพ จากกรณีที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชได้พิจารณาพิพากษาในคดีทุจริตการเลือกตั้งนายกองคืการบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 28 ส.ค. 2563 คดีหมายเลขดำ 64/2562 คดีหมายเลขแดง 485/2563 มีนายพิชัย บุณยเกียรติ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายมาโนช เสนพงศ์ เป็นจำเลยที่ 1 และนายเทพไท เสนพงศ์ เป็นจำเลยที่ 2 ตามฐานความผิดทุจริตการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ตามพ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นฯ พ.ศ.2545 พิพากษาจำคุก 3 ปี มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษ 1 ใน 3 คงจำคุก 2 ปี แต่การกระทำของผู้ถูกร้องเป็นเหตุให้การเลือกตั้งไม่สุจริต จึงไม่รอการลงโทษ เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี นับแต่วันมีคำพิพากษา ซึ่งคดีนี้เหตให้ กกต.นำความเข้าร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้วินิจฉัยสมาชิกภาพของนายเทพไท เสนพงศ์ อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีคำวินิจของศาลรัฐธรรมนูญ นายสุวิทย์ ศิริวุฒิ ทนายความโจทก์ในคดีข้างต้นได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวผ่านทางโทรศัพท์ว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นที่สุดไม่สามารถอุทธรณ์ฎีกาได้แล้ว ซึ่งแตกต่างกับคดีอาญาที่อยู่ในศาลยุติธรรม เพราะฉะนั้นสิ่งที่เขาจะต้องพบกับวิบากกรรมทางการเมืองต่อไปน่าจะไม่สามารถสมัคร สส.ได้ตลอดชีวิตเพราะเคยต้องคดีทุจริตการเลือกตั้ง สำหรับการเตรียมการเลือกตั้งนั้นมีรายงานว่าหลายพรรคการเมืองได้เตรียมตัวผู้สมัครไว้แล้ว เช่นนายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ อดีตผู้สมัครเลือกตั้ง สส.ในเขตเลือกตั้งที่ 3 จากพรรคพลังประชารัฐ ที่แพ้นายเทพไท เสนพงศ์ ไปเพียงไม่กี่พันคะแนนเท่านั้น ส่วนในพรรคภูมิใจไทย มีรายงานว่าผู้สมัครอาจเป็นนายถาวรวัฒน์ คงแก้ว อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ส่วนพรรคประชาธิปัตย์นั้นมีกระแสข่าวว่านายเทพไท เสนพงศ์ อาจผลักดันให้พี่ชายหรือน้องชายมาลงสมัครเพื่อรักษาฐานคะแนนแทนตัวเอง