เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ชายหาดแหลมปะการัง หมู่ 2 บ้านบางขยะ ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของเขาหลัก บริเวณซึ่งเป็นจุดที่ช่วงน้ำทะเลลงจะมีซากปะการังที่ตายแล้ว และโขดหินจะโผล่ขึ้นมาจำนวนมาก มองเห็นไกลสุดลูกหูลูกตา ชาวบ้านในพื้นที่และใกล้เคียง ก็จะออกไปหาโวยวาย หรืออีกชื่อคือ หมึกสาย ที่หลบซ่อนอยู่ตามรู เพื่อมาทำเป็นอาหารไว้รับประทานและขายเป็นอาชีพเสริม
โวยวาย หรือ หมึกสาย ที่ซ่อนอยู่ภายในรูแต่จะใช้ซากปะการังปิดปากรูไว้ ซึ่งชาวบ้านต่างจะรู้ดีว่า รูไหนเป็นรูที่โวยวายอาศัยอยู่ รูไหนเป็นรูที่ปูหรือปลาอาศัยอยู่ โดยสังเกตจากถ้าเป็นรูที่โวยวายอยู่ปากรูจะไม่มีเม็ดทรายแต่จะมีซากประการังที่ตายแล้วชิ้นเล็กๆปิดอยู่ อันนี้ต้องอาศัยความสามารถเฉพาะตัวจึงจะทราบจากนั้นจะใช้ปูเปรี้ยว คือปูตัวเล็กๆที่วิ่งอยู่ตามชายหาด นำมาฉีกเป็นชิ้นเล็กๆแล้วเสียบกับก้านไม้ไผ่หรือ ทำเป็นเหยื่อล่อค่อยๆแหย่ลงไปในรูของโวยวาย เพื่อล่อให้โวยวายออกมา รอสักครู่โวยวายจะค่อยๆใช้หนวดโผล่ออกมาจับเหยื่อที่เราแหย่เข้าไป จากนั้นเราก็ค่อยๆดึงเหยื่อออกมาทีละนิด รอจนกว่าจะเห็นตาของโวยวาย ก็จะใช้เหล็กแหลมแทงบริเวณส่วนหัวบริเวณใต้ตา แล้วก็นำมาร้อยเป็นพวงด้วยเชือก ก่อนนำไปประกอบอาหารกินในบ้าน วันไหนได้มากก็จะนำไปขายตามบ้านต่างๆในหมู่บ้านสร้างรายได้อย่างงาม
นายวรัช หันหวล อายุ 40 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ ต.คึกคัก เล่าให้ฟังว่า ช่วงน้ำทะเลลงตนจะมาหาโวยวายตลอด โดยจะหาปูเปรี้ยวคือปูตัวเล็กๆมาทำเป็นเหยื่อซึ่งก็จะหาได้ตามชายหาด จากนั้นก็รอจนกว่าน้ำทะเลจะลดลงไปจนโขดหินโผล่เหลือน้ำทะเลลึกประมาณครึ่งหน้าแข้ง ก็จะออกไปหารูโวยวายซึ่งก็ต้องใช้ความสามารพิเศษของแต่ละคนซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ทุกคนจะทราบดีว่ารูไหนโวยวายอาศัยอยู่ บางวันก็จะหาได้เยอะ1-2 กิโล กินกันในครอบครัวสบายๆ แต่ถ้าหากนำไปขายที่ตลาดนัดพ่อค้าจะรับซื้อในราคา กิโลกรัมละ 200 บาท ถือว่าเป็นรายได้ที่ดีหากว่าขยัน โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 จะมีคนมาหาโวยวายเยอะเป็นพิเศษเนื่องจากว่ามีคนตกงานเยอะ กลับมาอยู่บ้านไม่มีอะไรทำ