จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันทำให้ แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ได้เปิดตัวโครงการ Travel Good ไปกับแมริออท บอนวอย โครงการที่จะทำให้นักเดินทางได้สัมผัสกับการท่องเที่ยวที่มีความหมายทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แม้จะเป็นช่วงเวลาที่มีโรคระบาดทั่วโลก แต่กลุ่มนักเดินทางต่างมีความมุ่งมั่นมากขึ้นในการสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับชุมชนที่ตนเองไปเยี่ยมเยียน โดยโครงการ Travel Good with Marriott Bonvoy จะสร้างโอกาสให้บรรดาลูกค้าของโรงแรมได้มีปฏิสัมพันธ์โดยตรงกับสภาพแวดล้อมและชุมชนระหว่างการเข้าพักเป็นอย่างดี
สำหรับโครงการ Travel Good with Marriott Bonvoy ได้เริ่มต้นกับโรงแรมของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล 15 แห่งทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก นำเสนอประสบการณ์ที่คัดสรรมาแล้ว ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่โดดเด่นและแตกต่าง 3 เรื่อง ประกอบด้วย การอนุรักษ์สัตว์ทะเล มีจุดมุ่งหมายเพื่อฟื้นฟูและรักษาระบบนิเวศทางทะเลและพันธุ์สัตว์ต่างๆ การปกป้องสภาพภาพแวดล้อม โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนความยั่งยืนของสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติที่ได้รับผลกระทบจากการทำลายสภาพแวดล้อม จากมลภาวะ และการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และการมีส่วนร่วมกับชุมชน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสร้างให้เกิดผลลัพธ์ในทางบวกต่อชุมชนที่โรงแรมของแมริออทดำเนินกิจการอยู่ พร้อมมอบประสบการณ์เชิงมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม
โดย แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมนี้มี แพลตฟอร์ม เสิร์ฟ 360 : การทำดีในทุกทิศทาง (Serve 360 : Doing Good in Every Direction) ที่สร้างความยั่งยืนและผลกระทบต่อสังคม เป็นสิ่งที่ทำให้บริษัทมุ่งมั่นสร้างผลงานในด้านบวกและความยั่งยืนในทุกๆ ที่ที่เข้าไปดำเนินธุรกิจ กลายเป็นค่านิยมขององค์กรให้แก่พนักงาน ลูกค้า เจ้าของ สภาพแวดล้อม และชุมชนทั่วโลก สนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (SDGs) เป็นการนำประโยชน์ต่างๆ จากการเดินทางสู่ชุมชนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตั้งแต่การอนุรักษ์ป่าชายเลนที่ ฟิจิ แมริออท รีสอร์ท โมมิ เบย์ จนถึงการปลูกปะการังกับเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน โอกินาวา การทำความสะอาดชายหาดที่โรงแรมเดอะ ซานยา เอดิชั่น จนถึงการแจกจ่ายอาหารกับโรงแรมดับเบิลยู บาหลี-เซมินยัค
ทั้งนี้ นายบาร์ท บุยริง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายและการตลาด แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า หนึ่งในเทรนด์ที่กำลังเติบโต คือ กลุ่มนักท่องเที่ยววัยเยาว์ที่ให้ความสนใจกับผลกระทบกับสภาพแวดล้อมและจุดหมายปลายทางที่เดินทางไป ซึ่งโครงการ Travel Good with Marriott Bonvoy ได้สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านการรับรู้เกี่ยวกับการพักผ่อนในโรงแรม นอกเหนือจากการพักผ่อนเพียงอย่างเดียว สู่โอกาสที่มีคุณค่าในการสร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ และสร้างการเชื่อมต่อใหม่ๆ ระหว่างลูกค้า พนักงาน และชุมชนท้องถิ่น
“ตั้งใจจะทำให้ โครงการ Travel Good with Marriott Bonvoy มีอยู่ในโรงแรมทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่กำลังเติบโตประมาณ 800 แห่ง จาก 24 แบรนด์ในภูมิภาคนี้ โดยแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล อยู่ในสถานะที่แข็งแกร่งในการมอบประสบการณ์ที่มีความหมายให้ภายในประเทศเหล่านั้น รวมถึงผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี ยามที่คิดถึงการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงระหว่างการเกิดโรคระบาด หรือหลังจากโควิดผ่านพ้นไปแล้ว" นายบาร์ท กล่าว
อย่างไรก็ตามจากการที่ แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เน้นย้ำเรื่องการปกป้องสิทธิมนุษยชน และทำงานกับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรชั้นนำหลายแห่ง จนถึงการลดผลกระทบที่มีต่อสภาพแวดล้อม และการบริหารจัดการโรงแรมในแนวทางของความยั่งยืน ทางแมริออทยังเดินหน้า มุ่งมั่นให้บริการชุมชนต่างๆ โลก และผู้คนทั่วโลก ซึ่งถือเป็นความสำคัญลำดับแรก ในปี 2563 ทั้งความช่วยเหลือและความร่วมมือเพื่อชุมชน ในสถานที่ที่โรงแรมของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ดำเนินกิจการอยู่ยังสม่ำเสมอ ตั้งแต่การบริจาคสิ่งของจำเป็นจนถึงการให้อัตราราคาพิเศษ และที่พักสำหรับผู้ทำงานด่านหน้าของการช่วยเหลือในเรื่องโรคระบาดครั้งนี้ ตลอดจนพนักงานจากโรงแรมทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่ทำงานจิตอาสากว่า 200,000 ชั่วโมงเพื่อรับใช้ชุมชนที่ต้องการความช่วยเหลือ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.marriottbonvoyasia.com/travelforgood
สำหรับโครงการ Travel Good with Marriott Bonvoy ได้เริ่มต้นกับโรงแรมของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล 15 แห่งทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก นำเสนอประสบการณ์ที่คัดสรรมาแล้ว ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่โดดเด่นและแตกต่าง 3 เรื่อง ประกอบด้วย การอนุรักษ์สัตว์ทะเล มีจุดมุ่งหมายเพื่อฟื้นฟูและรักษาระบบนิเวศทางทะเลและพันธุ์สัตว์ต่างๆ การปกป้องสภาพภาพแวดล้อม โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนความยั่งยืนของสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติที่ได้รับผลกระทบจากการทำลายสภาพแวดล้อม จากมลภาวะ และการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และการมีส่วนร่วมกับชุมชน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสร้างให้เกิดผลลัพธ์ในทางบวกต่อชุมชนที่โรงแรมของแมริออทดำเนินกิจการอยู่ พร้อมมอบประสบการณ์เชิงมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม
โดย แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมนี้มี แพลตฟอร์ม เสิร์ฟ 360 : การทำดีในทุกทิศทาง (Serve 360 : Doing Good in Every Direction) ที่สร้างความยั่งยืนและผลกระทบต่อสังคม เป็นสิ่งที่ทำให้บริษัทมุ่งมั่นสร้างผลงานในด้านบวกและความยั่งยืนในทุกๆ ที่ที่เข้าไปดำเนินธุรกิจ กลายเป็นค่านิยมขององค์กรให้แก่พนักงาน ลูกค้า เจ้าของ สภาพแวดล้อม และชุมชนทั่วโลก สนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (SDGs) เป็นการนำประโยชน์ต่างๆ จากการเดินทางสู่ชุมชนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตั้งแต่การอนุรักษ์ป่าชายเลนที่ ฟิจิ แมริออท รีสอร์ท โมมิ เบย์ จนถึงการปลูกปะการังกับเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน โอกินาวา การทำความสะอาดชายหาดที่โรงแรมเดอะ ซานยา เอดิชั่น จนถึงการแจกจ่ายอาหารกับโรงแรมดับเบิลยู บาหลี-เซมินยัค
ทั้งนี้ นายบาร์ท บุยริง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายและการตลาด แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า หนึ่งในเทรนด์ที่กำลังเติบโต คือ กลุ่มนักท่องเที่ยววัยเยาว์ที่ให้ความสนใจกับผลกระทบกับสภาพแวดล้อมและจุดหมายปลายทางที่เดินทางไป ซึ่งโครงการ Travel Good with Marriott Bonvoy ได้สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านการรับรู้เกี่ยวกับการพักผ่อนในโรงแรม นอกเหนือจากการพักผ่อนเพียงอย่างเดียว สู่โอกาสที่มีคุณค่าในการสร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ และสร้างการเชื่อมต่อใหม่ๆ ระหว่างลูกค้า พนักงาน และชุมชนท้องถิ่น
“ตั้งใจจะทำให้ โครงการ Travel Good with Marriott Bonvoy มีอยู่ในโรงแรมทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่กำลังเติบโตประมาณ 800 แห่ง จาก 24 แบรนด์ในภูมิภาคนี้ โดยแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล อยู่ในสถานะที่แข็งแกร่งในการมอบประสบการณ์ที่มีความหมายให้ภายในประเทศเหล่านั้น รวมถึงผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี ยามที่คิดถึงการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงระหว่างการเกิดโรคระบาด หรือหลังจากโควิดผ่านพ้นไปแล้ว" นายบาร์ท กล่าว
อย่างไรก็ตามจากการที่ แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เน้นย้ำเรื่องการปกป้องสิทธิมนุษยชน และทำงานกับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรชั้นนำหลายแห่ง จนถึงการลดผลกระทบที่มีต่อสภาพแวดล้อม และการบริหารจัดการโรงแรมในแนวทางของความยั่งยืน ทางแมริออทยังเดินหน้า มุ่งมั่นให้บริการชุมชนต่างๆ โลก และผู้คนทั่วโลก ซึ่งถือเป็นความสำคัญลำดับแรก ในปี 2563 ทั้งความช่วยเหลือและความร่วมมือเพื่อชุมชน ในสถานที่ที่โรงแรมของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ดำเนินกิจการอยู่ยังสม่ำเสมอ ตั้งแต่การบริจาคสิ่งของจำเป็นจนถึงการให้อัตราราคาพิเศษ และที่พักสำหรับผู้ทำงานด่านหน้าของการช่วยเหลือในเรื่องโรคระบาดครั้งนี้ ตลอดจนพนักงานจากโรงแรมทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่ทำงานจิตอาสากว่า 200,000 ชั่วโมงเพื่อรับใช้ชุมชนที่ต้องการความช่วยเหลือ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.marriottbonvoyasia.com/travelforgood