รายงานข่าวจากกรมท่าอากาศยาน (ทย.) แจ้งว่า ขณะนี้ ทย. อยู่ระหว่างจัดทำร่างเงื่อนไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) โครงการก่อสร้างปรับปรุงต่อเติมอาคารที่พักผู้โดยสาร(เทอร์มินอล) ท่าอากาศยานร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด วงเงินประมาณ 110 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ม.ค.64 จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการเปิดประมูลได้ประมาณเดือน ก.พ.64 และได้ผู้ชนะประมูลประมาณกลางเดือน มี.ค.64 เริ่มก่อสร้างประมาณเดือน เม.ย. ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 1 ปี จะแล้วเสร็จในเดือน เม.ย.65 และพร้อมเปิดให้บริการประมาณเดือน พ.ค.65 ซึ่งจะทำให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้น จากปัจจุบัน 300 คนต่อชั่วโมง(ชม.) หรือ 8.6 แสนคนต่อปี เป็นไม่น้อยกว่า 450 คนต่อ ชม. หรือ 1.2 ล้านคนต่อปี สำหรับอาคารผู้โดยสารหลังนี้ก่อสร้างมานานกว่า 20 ปีแล้ว ปัจจุบันมีสภาพเก่า และทรุดโทรม เนื่องจากใช้งานมาเป็นเวลานาน แต่ยังไม่เคยได้รับการปรับปรุงหรือต่อขยายเพิ่มเติม ซึ่งปัจจุบันจำนวนผู้โดยสารที่มาใช้บริการเกินขีดความสามารถในการรองรับของท่าอากาศยานร้อยเอ็ดแล้ว และได้รับเสียงร้องเรียนจากผู้โดยสารค่อนข้างมาก อาทิ ขอให้ขยายอาคารผู้โดยสาร และเพิ่มที่นั่งให้เพียงพอ เพราะภายในอาคารค่อนข้างหนาแน่นและแออัดมาก โดยเฉพาะช่วงเวลาคับคั่ง อย่างไรก็ตามก่อนเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ท่าอากาศยานร้อยเอ็ดมีผู้โดยสารประมาณ 3-4 แสนคนต่อปี มีสายการบินไทยแอร์เอเชียทำการบิน วันละ 4 เที่ยวบิน ทั้งรี้ีหลังจากเกิดโควิด-19 จำนวนผู้โดยสารลดลงมาก โดยสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไออาตา) คาดการณ์ว่าจำนวนผู้โดยสารของการขนส่งทางอากาศทั่วโลกจะกลับไปเท่ากับปี 62 ประมาณปี 66-67 ดังนั้นเพื่อเตรียมพร้อมในการรองรับผู้โดยสาร และเป็นไปตามแผนพัฒนาท่าอากาศยานร้อยเอ็ด ทาง ทย. จึงใช้โอกาสในช่วงที่เกิดโรคโควิด-19 ซึ่งมีผู้โดยสารเดินทางน้อย ดำเนินการพัฒนาปรับปรุงเพื่อทำให้การบริการมีประสิทธิภาพ ได้มาตรฐานทั้งความปลอดภัย และความสะดวกสบาย รวมถึงผู้ที่มาใช้บริการได้รับความพึงพอใจสูงสุด อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงต่อเติมฯครั้งนี้ จะเพิ่มพื้นที่โถงผู้โดยสารขาออกประมาณ 900 ตารางเมตร (ตร.ม.) โดยงานสถาปัตยกรรมจะนำเส้นสายของ “ผ้าไหมทอมือลายสาเกต” ซึ่งเป็นลายผ้าที่เป็นอัตลักษณ์ของ จ.ร้อยเอ็ด มาใช้ในการออกแบบ รวมถึงสีที่เลือกนำมาใช้ทั้งตัวอาคาร และป้ายต่างๆ ภายในอาคาร จะเน้นโทนสีน้ำตาล มีทั้งเข้มและอ่อน ตามสีของผ้าไหมลายสาเกต นอกจากนี้จะปรับปรุงห้องน้ำ โถงรวม ปรับปรุงเคาน์เตอร์เช็กอิน และเพิ่มพื้นที่เช่าภายในอาคาร ขณะเดียวกันจะต่อเติมชานชาลาหน้าอาคารผู้โดยสาร พื้นที่ประมาณ 800 ตร.ม. เพื่อให้สามารถกันแดด กันฝนให้ผู้มาใช้บริการ รวมถึงจะจัดซื้อเก้าอี้พักคอย เพื่อใช้ในโถงผู้โดยสารขาออกด้วย.