ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปริมาณน้ำในแม่น้ำชีบริเวณสะพานบ้านดอนขะยอม ตำบลสงเปลือย อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร เริ่มแห้งขอดลงอย่างรวดเร็วจนมองเห็นเนินทรายโผล่เป็นช่วงๆชาวนาในพื้นที่ตำบลเขื่องคำ,ตำบลขุมเงิน อำเภอเมืองและตำบลสงเปลือย อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อกันเกรงว่าจะไม่มีน้ำเพียงพอในการทำข้าวนาปรัง
โดยสถานการณ์ภัยแล้งปีนี้ส่งสัญญาณว่าจะมาเร็ว เนื่องจากพบว่าปริมาณน้ำในแม่น้ำชีโดยเฉพาะช่วงบริเวณด้านหลังเขื่อนยโสธร ลงไปตอนล่างจนถึงสะพานข้ามแม่น้ำชีบ้านดอนขะยอม ตำบลสงเปลือย อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร เริ่มแห้งขอดลงอย่างรวดเร็วจนมองเห็นเนินทรายโผล่กลางแม่น้ำเป็นช่วงๆซึ่งบางช่วงน้ำเหลือน้อยจนสามารถเดินข้ามได้ โดยที่บริเวณใต้สะพานข้ามแม่น้ำชีพบว่าปริมาณน้ำลดลงอย่างรวดเร็วจนมองเห็นตอม่อสะพานและเห็นพื้นทรายเป็นทางยาวเกษตรกรที่ทำนาปรังซึ่งจำเป็นต้องใช้น้ำจากแม่น้ำชีในการทำนาปรังปีนี้จึงหวั่นเกรงว่าจะไม่มีน้ำเพียงพอในการทำนาปรัง โดยเฉพาะในพื้นที่ตำบลเขื่องคำ,ตำบลขุมเงิน อำเภอเมืองยโสธรและตำบลสงเปลือย อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อกันและมักพบว่าจะมีเกษตรกรหันไปทำนาปรังกันเป็นจำนวนมากในแต่ละปี เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำอยู่ติดกับแม่น้ำชี จึงมีเกษตรกรได้หันไปทำนาปรังกันมากขึ้นในช่วงหน้าแล้งภายหลังเก็บเกี่ยวข้าวนาปีเสร็จ โดยทั้ง 3 ตำบลมีพื้นที่ทำนาปรังกว่า 30,000 ไร่ และต้องใช้น้ำจากแม่น้ำชีเป็นหลักในการทำนาปรัง ดังนั้นหากสถานการณ์อย่างนี้เกษตรกรที่ปลูกข้าวนาปรังได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน