พิษโควิด 19 ทำสามีเงินสะดุด เหตุจากถูกเลิกจ้างเมื่อครั้งการระบาดในรอบแรก ขาดรายได้มานาน 4 เดือน หลังหางานทำใหม่ได้แต่สภาพคล่องยังไม่ฟื้นตัว ขณะแฟนสาววัย 17 ตั้งท้อง 3 เดือนโพสต์หากู้เงินผ่านทางโซเชียล เปิดช่องคนร้ายสวมรอยทำทียื่นมือเข้ามาช่วยแต่ขอตามมาดูให้ถึงยังที่พัก อ้างเพื่อสะดวกต่อการติดตามทวงถามหากถูกเบี้ยวจ่าย ก่อนใช้ปืนจี้ขืนใจถึงในบ้านพัก
วันที่ 22 ม.ค.64 เวลา 10.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ได้เรียกตัวหญิงสาววัย 17 ปี พร้อมด้วยแฟนหนุ่มวัย 28 ปี สองสามีภรรยามาทำการซักถามสอบปากคำเพิ่มเติม หลังจากเมื่อช่วงค่ำวานนี้ 19.00 น. (21 ม.ค.64) ได้มีเยาวชนหญิงรายหนึ่งเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.เปรม สุทธิอุดม รองสารวัตรสอบสวน สภ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทราว่า
ได้ถูกชายวัย 26 ปี เข้ามาใช้อาวุธปืนจี้ที่ศีรษะและกระทำการข่มขืนถึงภายในบ้านพักจนสำเร็จความใคร่ โดยบ้านพักหลังเกิดเหตุอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง ในเขตพื้นที่ ม.2 ต.หนองตีนนก อ.บ้านโพธิ์ ขณะเดียวกันหญิงสาวรายนี้ได้นำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนเองโพสต์ขอความช่วยเหลือผ่านทางสื่อโซเชียลโดยระบุว่า ได้โพสต์ข้อความในการหาเงินกู้ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์
ต่อมาได้มีคนร้ายซึ่งเป็นชายวัย 26 ปี ซึ่งเคยรู้จักกันในระหว่างที่เข้าไปทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารแห่งหนึ่งใกล้กับปั้มน้ำมัน ปตท. ย่านสถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.ฉะเชิงเทรา ได้อ้างว่ามีเพื่อนปล่อยเงินกู้ จึงได้ขอร้องให้ช่วยพูดคุยให้ และเขารับปากว่าจะช่วยเป็นเงินจำนวน 10,000 บาท แต่ได้ขอเข้ามาดูบ้านพักด้วย โดยอ้างว่าเกรงว่าตนเองจะเงียบหายไป เพื่อความสะดวกในการติดตามทวงถาม
จึงได้แชร์โลเคชั่นไปให้ ต่อมาในเวลา 14.30 น.วานนี้ คนร้ายจึงได้เดินทางมาจนถึงยังหน้าบ้านพัก และตนเองได้พยายามที่จะพูดคุยอยู่ที่บริเวณด้านหน้าบ้าน แต่คนร้ายได้ทำทีขอเข้าห้อง จึงได้อนุญาตให้คนร้ายเข้าไปยังภายในบ้าน โดยที่ตนเองได้ติดตามไปดูอยู่ห่างๆ ยังที่หน้าประตูทางเข้าบ้าน หลังจากคนร้ายออกมาจากห้องน้ำ ได้ใช้อาวุธปืนจี้และลากตนเองเข้าไปยังภายในบ้าน
ซึ่งตนเองได้พยายามที่จะขัดขืนแล้ว แต่ไม่สามารถที่จะสู้แรงของคนร้าย ได้เนื่องจากมีรูปร่างใหญ่ และยังมีอาวุธปืนด้วย จึงถูกคนร้ายกระทำการข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ ทั้งที่ได้บอกกับคนร้ายแล้วว่ากำลังตั้งท้องอยู่ได้ประมาณ 3 เดือนแล้ว โดยที่คนร้ายบอกว่าจะเอาอาวุธปืนไปขาย เพื่อจะนำเงินมาให้จากนั้นจึงได้หลบหนีไป และหลังจากหายตกใจแล้ว จึงได้โทรศัพท์แจ้งให้ทางญาติของฝ่ายสามีทราบ และพามาเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ยังที่ สภ.บ้านโพธิ์ จากนั้นจึงได้ถูกส่งตัวไปตรวจร่างกาย
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.ท.จักรภัทร ดาราพงษ์ รอง ผกก. สอบสวน สภ.บ้านโพธิ์ ว่า ในวันนี้ได้เรียกทางฝ่ายของผู้เสียหายพร้อมด้วยสามี มาทำการซักถามรายละเอียดเพิ่มเติม และจะนำตัวไปทำการสอบสวนร่วมกับทางเจ้าพนักงานอัยการ ต่อหน้า จนท.สหวิชาชีพ ยังที่สำนักงานอัยการ จ.ฉะเชิงเทรา ในเวลา 14.00 น. ซึ่งถ้าหากทางฝ่ายผู้เสียหายได้ให้ปากคำตรงกันกับที่ได้พูดคุยกับทางพนักงานสอบสวนไว้แล้ว
ก็จะสามารถยื่นขอหมายจับจากศาล จ.ฉะเชิงเทรา ได้ในช่วงเย็นของวันนี้ต่อไป ซึ่งขณะนี้ทราบตัวแล้วว่าคนร้ายที่ก่อเหตุนั้นเป็นใคร และยังทราบอีกว่า ผู้ก่อเหตุรายนี้ยังเคยก่อคดีฆ่าผู้เป็นบิดาของตนเองมาก่อนในท้องที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ด้วย เมื่อประมาณปี 2555 แต่เนื่องจากในขณะนั้นผู้ก่อเหตุยังเป็นเยาวชนวัย 17 ปีอยู่ จึงได้รับการลงโทษทางอาญาไม่นาน และถูกปล่อยตัวออกมาเมื่อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา
ขณะที่ฝ่ายสามีของหญิงสาววัย 17 ปี กล่าวว่า ขณะนี้สภาพจิตใจของตนเองนั้น รู้สึกย่ำแย่มาก และอยากจะรู้ว่ามันทำไปได้อย่างไร ทั้งที่ภรรยาตนกำลังตั้งท้องอยู่ จึงรู้สึกคับแค้นใจมาก ส่วนทางด้านการดำคดีนั้น ยังต้องรอทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยในวันเกิดเหตุตนเดินทางไปทำงานในโรงงาน จึงได้ปล่อยให้ภรรยาอยู่ที่บ้านเพียงลำพัง
ส่วนความจำเป็นในการใช้เงินนั้น ภรรยาของตนได้เคยกู้เงินนอกระบบมาให้แก่ทางผู้เป็นมารดาของเขา แต่หมุนเงินไม่ทัน จึงไม่มีจ่ายให้แก่เจ้าหนี้ จึงได้พยายามที่จะหาเงินกู้ไปโปะหนี้เก่าเพื่อไม่ให้ดอกเพิ่มทวีคูณ ขณะที่ครอบครัวของตนกับภรรยานั้น เดิมตนเองเคยทำงานในโรงงานแห่งหนึ่ง ซึ่งผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักรกลการเกษตร หรือรถเกี่ยวข้าว โดยทำหน้าที่เป็นพนักงานควบคุม Robot และมีรายได้ดีพอสมควร
จึงได้ทำการซื้อบ้านในหมู่บ้านจัดสรรแห่งดังกล่าว เป็นของตนเองเพื่อพักอาศัยอยู่กับภรรยาในราคาประมาณ 1.5 ล้านบาทด้วยเงินกู้ของทางธนาคาร แต่ต่อมาหลังจากเกิดสถานการณ์โควิด 19 ระบาดในรอบแรก จึงได้ถูกผู้ประกอบการเลิกจ้าง และทำให้ตนตกงานอยู่เป็นเวลาประมาณ 4 เดือน ก่อนที่จะมาหางานทำใหม่ได้ แต่จากช่วงที่ขาดรายได้ไปนั้น
ได้ส่งผลกระทบทำให้ขาดสภาพคล่อง เพราะหมุนเงินไม่ทันกับรายจ่าย แม้จะมีงานทำแล้วยังในสถานประกอบการแห่งใหม่ก็ตาม แต่เนื่องจากติดลบมานานก่อนหน้าหลายเดือนจึงทำให้เป็นหนี้ จนภรรยาของตนได้พยายามที่จะไปหาเงินกู้มาเสริม เพื่อจ่ายค่าใช้จ่ายรายเดือนไปก่อน และกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้คนร้ายใช้โอกาสนี้ เข้ามาสวมรอยกระทำการดังกล่าวขึ้น
“โดยตนอยากจะฆ่ามันให้ตาย หรืออยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด หรือประหารชีวิตไปเลย เพื่อไม่ให้ออกมาก่อเหตุกระทำกับคนอื่นได้อีก” สามีของเหยื่อมิจฉาชีพหื่นกามรายนี้ ระบุ
ด้าน ร.ต.อ.เปรม สุทธิ์อุดม พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวว่า "ขณะนี้ได้เตรียมออกหมายจับคนร้ายไว้แล้วในข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเลาผู้อื่นโดยขู่เข็นด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีหรือใช้อาวุธปืน” หากผู้เสียหายไปให้การต่อทางเจ้าพนักงานอัยการ และสหวิชาชีพ ตรงกันกับที่ได้พูดคุยซักถามกันไว้แล้วในเบื้องต้น ก็จะสามารถยื่นขอหมายจับจากศาล จ.ฉะเชิงเทรา ได้ในเย็นวันนี้