สำหรับ แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล (Nasdaq : MAR) ได้ขยายการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าเปิดโรงแรมอีก 100 แห่ง ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ปี 2021 โดยในปี 2020 มีการเปิดตัวโรงแรมกว่า 75 แห่ง เฉลี่ยเท่ากับการเปิดโรงแรมมากกว่า 1 แห่งต่อสัปดาห์ทั่วภูมิภาค คิดเป็นจำนวนห้องพักเกือบ 27,000 ห้องที่เพิ่มเติมเข้ามาในแผนการพัฒนาของภูมิภาคนี้ นอกเหนือจากการเซ็นสัญญาของแมริออท กับโครงการ branded residences ขนาดใหญ่ที่สุดซึ่งมีจำนวนห้องพักเกือบ 4,200 ยูนิต ทั้งนี้ นายเครก เอส. สมิท ประธานบริหารกลุ่มต่างประเทศ แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า ทางกลุ่มเติบโตอย่างต่อเนื่อง และปรับตัวได้อย่างรวดเร็วเพื่อรับมือกับความท้าทายจากสถานการณ์โรคระบาด ทั้งการเปิดตัวมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยของอุตสาหกรรมในระดับโลก เมื่อเดือนเมษายน 2020 การให้ข้อเสนอที่เป็นนวัตกรรมรูปแบบใหม่ เช่น แพ็กเกจทำงานจากที่ไหนก็ได้ การปรับกลยุทธ์การตลาดและการขายที่มุ่งเน้นไปที่ตลาดท้องถิ่น รวมถึงการวิเคราะห์ และคาดการณ์เหตุการณ์ล่วงหน้าอย่างทันท่วงที ซึ่งจะนำพาธุรกิจไปสู่การพลิกฟื้นได้ โดยประเทศจีน กลายเป็นผู้นำการฟื้นตัวของโลกจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งทางบริษัทคาดหวังว่าจะได้ฉลองการเปิดตัวโรงแรมแห่งที่ 400 ในจีน และโรงแรมแห่งที่ 50 ในเซี่ยงไฮ้ ด้วยการเปิดตัว เจดับบลิว แมริออท เซี่ยงไฮ้ เฟิงเชียน ในฤดูใบไม้ผลิ 2021 สำหรับการเปิดตัวโรงแรมในเซี่ยงไฮ้นี้จะเป็นจุดหลักในการทำให้บริษัทไปถึงจุดสำคัญในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งจากข้อมูล การรายงานร่วมของบริษัทที่ปรึกษา เบน แอนด์ โค และจากแผนกสินค้าลักชัวรีของร้านทีมอลล์ ของอาลีบาบา ในประเทศจีน ระบุว่า จีนมีแนวโน้มที่จะเป็นตลาดสินค้าลักชัวรีที่ใหญ่ที่สุดของโลกภายในปี 2025 ซึ่งในปี 2020 ยังมีการเติบโตเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ ถึงแม้จะมีสถานการณ์โรคระบาดก็ตาม และเพื่อตามเทรนด์ดังกล่าวให้ทัน แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล จึงเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งทางด้านลักชัวรี ด้วยการเปิดตัวที่คาดว่าจะมีขึ้นในปี 2021 ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมดับเบิลยู ชางชา โรงแรมดับเบิลยู เซียะเหมิน โรงแรมเซนต์ รีจิส ชิงเต่า และโรงแรมเดอะ ริทซ์-คาร์ตัน รีเสิร์ฟ จิ่วจ้ายโกว ทั้งนี้คาดว่าจากการเปิดเดอะริทซ์-คาร์ลตัน รีเสิร์ฟ จะทำให้จีนเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่มีโรงแรมระดับลักชัวรีของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ครบทุกโรงแรม สำหรับการจองเข้าพักของแมริออทในประเทศจีนมีความแข็งแกร่งมาก โดยเพิ่มขึ้นถึง 25% ในไตรมาสที่ 3 แสดงให้เห็นถึงความต้องการที่ไม่ได้ลดถอยลง เมื่อผู้บริโภครู้สึกผ่อนคลายว่าการแพร่ระบาดของไวรัสอยู่ภายใต้การควบคุม และมาตรการเกี่ยวกับความปลอดภัยถูกยกระดับ ซึ่งบริษัทได้นำเสนอประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นในทุกโรงแรม รวมทั้งจุดหมายการพักผ่อนที่เป็นที่นิยม เช่น เมืองเมียนหยาง ในมณฑลเสฉวน ดังนั้นคาดว่าจะมีการเปิดตัวโรงแรมเชอราตัน เหมียนหยาง เช่นเดียวกับจุดหมายทางวัฒนธรรมของเมืองหนานจิง ที่จะมีการเปิดตัวโรงแรมเดอะ เวสติน หนานจิง รีสอร์ท แอนด์ สปาด้วย นอกเหนือจากการเปิดตัวในประเทศจีนแล้ว แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ยังเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่ง ด้วยการเปิดตัวอีกหลายแบรนด์ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในปี 2021 ที่ประเทศญี่ปุน น่าจะมีการเปิดตัวแบรนด์ดับเบิลยู โฮเทลส์ ทั้งโรงแรมดับเบิลยู โอซากา ขณะที่แบรนด์ เดอะ ลักชัวรี คอลเลกชัน ได้มีกำหนดเปิดในประเทศออสเตรเลีย และแบรนด์เดอะ ทาสมัน ที่เมืองโฮบาร์ต ส่วนแบรนด์ไอคอนอย่างริทซ์-คาร์ลตัน น่าจะเปิดตัวในจุดหมายชั้นนำอย่างเกาะมัลดีฟส์ ในช่วงต้นฤดูร้อน เพื่อนำบริการระดับตำนานมาสู่หมู่เกาะที่สวยงามแห่งนี้ อีกทั้งยังมีแบรนด์เจดับบลิว แมริออท ที่มีกำหนดเปิดตัวอย่างหรูหรา บนเกาะเจจู ประเทศเกาหลีใต้ ภายใต้ชื่อ เจดับบลิว แมริออท เจจู ในช่วงปลายปี 2021 ขณะที่ เวสติน ซึ่งเป็น เวลเนส แบรนด์ ที่เป็นซิกเนเจอร์ของบริษัท จะเปิดตัวที่เมืองโกอา หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวชายทะเลระดับต้นๆ ของประเทศอินเดีย ในช่วงฤดูร้อนเช่นกัน อย่างไรก็ตาม นายเครก ยังกล่าวต่อว่า ในประเทศของญี่ปุ่นทางบริษัท กำลังวางแผนที่จะเปิดโรงแรมแฟร์ฟีลด์ บาย แมริออท เพิ่มอีก 6 แห่งตลอดปี 2021 พร้อมกับ ‘มิชิ-โนะ-เอกิ” สถานีริมถนน ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อฟื้นพลังชีวิตให้กับจุดท่องเที่ยวท้องถิ่นของประเทศ โดยญี่ปุ่นคาดหมายว่าจะมีโรงแรมแฟร์ฟีลด์ บาย แมริออท มากกว่า 30 แห่งภายในสิ้นปี 2023 เช่นเดียวกับ เมลเบอร์น ประเทศออสเตรเลีย เมืองที่ได้รับยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่ดีที่สุดสำหรับศิลปะ วัฒนธรรม เพลง และอาหาร ก็น่าจะมีการเปิดตัวโรงแรมดับเบิล ยู แห่งที่ 2 ของประเทศ ด้วย ดับเบิลยู เมลเบอร์น ในฤดูใบไม้ผลิ และเมลเบอร์น แมริออท โฮเทล ดอคแลนด์ส ต้นปี 2021 นี้