เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 21 ม.ค.2564 ที่โรงเรียนการศึกษาคนตาบอดขอนแก่น นายภาษิต ภูแต้มนิล ผู้อำนวยการโรงเรียนการศึกษา คนตาบอด ขอนแก่น ทำการตรวจติดตามกระบวนการการจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ ของนักเรียนจากทุกระดับชั้นที่ต้องทำการเรียนการสอนอยู่ที่โรงเรียน ทดแทนการเรียนการสอนไปในกลุ่มโรงเรียนต่างๆ อันมีผลมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เกิดชึ้น ขณะเดียวกันโรงเรียนยังคงจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ให้กับนักเรียนที่ผู้ปกครองมารับกลับบ้าน หลังจากต้องหยุดทำการเรียนการสอนจากสถานการณืดังกล่าวด้วยเช่นกัน นายภาษิต ภูแต้มนิล ผู้อำนวยการโรงเรียนการศึกษาคนตาบอด ขอนแก่น กล่าวว่า ที่โรงเรียนฯ มีนักเรียนทั้งหมด 90 คน ในจำนวนนี้มีนักเรียนเรียนร่วมกับเด็กปกติ 40 คน ทั้งในระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษา ที่ต้องออกไปเรียนข้างนอก แต่เมื่อมีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด- 19 ระลอกใหม่ ทำให้หลายโรงเรียนประกาศปิดทำการเรียรการสอนและให้นักเรียนเรียนแบบออนไลน์แทน ซึ่งก็ ทำให้นักเรียนทั้ง 40 คน ต้องเรียนออนไลน์เช่นเดียวกัน ซึ่งในช่วงที่มีการระบาดในรอบแรกยอมรับว่านักเรียนปรับตัวไม่ได้ การเรียนการสอนส่วนใหญ่ใช้การฟังจากทีวีดาวเทียม เนื้อหาการเรียนการสอนบางส่วนไม่ตอบโจทย์กับความต้องการของเด็ก เด็กยังใช้โปรแกรมเรียนออนไลน์ไม่คล่อง บางรายยังไม่มีสมาร์ทโฟน ส่วนนักเรียนที่เข้ามาเรียนใหม่ก็จะไม่ได้เรียน เพราะนักเรียนต้องเรียนทั้งอักษรเบรลล์และเรียนออนไลน์ จึงทำให้ปรับตัวไม่ทัน “การระบาดระลอกใหม่นี้นั้นนักกเรียนได้เตรียมตัวกันเพิ่มมากขึ้น ซึ่งก็ จะมีติดขัดบ้างเรื่องความเร็วอินเตอร์เน็ต ที่ทำให้การเรียนการสอนสะดุด แต่ทั้งนี้ทางโรงเรียนพยายามแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ ขณะที่ตารางการเรียนการสอนออนไลน์ของนักเรียนเนื่องจากแต่ละคนจะเรียนต่างชั้น ต่างรายวิชา แต่ละคนจึงมีวิธีการเตรียมตัวที่ต่างกัน ส่วนใหญ่จะมีอุปกรณ์การเรียนทั้งสมาร์โฟน โน้ตบุ๊ค หูฟัง และแผ่นอักษรเบรลล์ ใช้สำหรับจดบันทึกความจำ จึงเป็นการจัดการเรียนการสอนที่ดีกว่าการหยุดเรียนในรอบแรก" ขณะที่ น.ส.สุดารัตน์ เพียรโคตร นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน กล่าวว่า เรียนออนไลน์ร่วมกันกับเพื่อนๆร่วมชั้นเรียนด้วยโปรแกรมกูเกิ้ลมีท ซึ่งกระบวนการการเรียนการสอนแบบออนไลน์ นักเรียนพิการทางสายตาจะต้องปรับตัวอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องของการส่งงาน และส่งการบ้านให้กับครูผู้สอน เพราะปกติเรียนในห้องเรียนก็ส่งงานช้า แต่เมื่อเรียนออนไลน์ทำให้การทำงานส่งช้าลงอีก จึงจำเป็นจะต้องขอครูผู้สอนในการส่งงานช้ากว่าเพื่อนนักเรียนคนอื่น “การเรียนออนไลน์ต้องฟังและจดบันทึกไปพร้อมกัน ซึ่งเป็นการเรียนที่ลำบากกว่าการเรียนปกติของกลุ่มนักเรียนพิการทางสายตา เพราะบางโปรแกรมคนตาบอดเข้าไม่ถึง จึต้องขอความช่วยเหลืออาจารย์ที่ปรึกษาในการอธิบายให้เข้าใจ ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดที่เด็กนักเรียนที่พิการทางสายตาต้องการ คือโปรแกรมการเรียนการสอนที่เข้าถึงคนตาบอดที่สามารถอ่านได้ หรือเทคนิควิธีการสอนแบบออนไลน์ที่เน้นเฉพาะกลุ่มนักเรียนที่พิการทางสายตา รวมไปถึงอินเตอร์เนตที่มีความเร็วที่เหมาะสมกับการเรียนการสอน ผ่านโปรแกรมต่างๆ เพื่อให้การค้นคว้าหรือการเรียนการสอนในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้นั้นเด็กพิการทางสายตาจะได้เข้าถึงการจัดการเรียนการสอนได้ง่ายเพิ่มมากยิ่งขึ้นกว่านี้"