สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา จำกัด ประชุมใหญ่ฯ ปี 2563 ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ กระตุ้นเศรษฐกิจ สู้ภาวะวิกฤตโควิด-19
เมื่อวันที่ 17 ม.ค. สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา จำกัด จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2563 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมีนายกรกต ธำรงวงศ์สวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการเปิดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2563 ของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา จำกัด ซึ่งมีนายราชศักดิ์ ตระสินธุ์ สหกรณ์จังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ จักรสาร ประธานกรรมการ และคณะกรรมการดำเนินการให้การต้อนรับ โดยมีสมาชิกสหกรณ์เข้าร่วมประชุมจำนวน 16 จุดมีผู้แทนสมาชิก 672 ราย เข้าร่วมประชุม เพื่อสร้างศรัทธาความเชื่อมั่นในระบบสหกรณ์ให้กับสมาชิกสหกรณ์ พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดนครราชสีมา สู้กับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า–19 (Covid-19)
นายสมศักดิ์ จักรสาร ประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา จำกัด เปิดเผยว่า สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา จำกัด จะมีการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2563 ในวันที่ 14 มกราคม 2564 นั้น แต่เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า–19 (Covid-19) พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นและมีแนวโน้มของการติดเชื้อขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ร่วมทั้งจังหวัดนครราชสีมาได้มีประกาศจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา เรื่อง มาตรการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิค-19 (Covid-19) ตามมติที่ประชุม ครั้งที่ 20/ 2563 ลงวันที่ 1 มกราคม 2564 ขอความร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชน งดหรือเลื่อนการจัดกิจกรรมที่รวมตัวกันมากกว่า 100 คน จนถึงวันที่ 20 มกราคม 2564 เป็นเหตุให้สหกรณ์จึงต้องยกเลิกการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปีได้
ทั้งนี้ ทางคณะกรรมการดำเนินการของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา จำกัด ชุดที่ 63 ได้ประชุมครั้งที่ 13/63 (กรณีพิเศษ) เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2564 จึงมีมติปรับเปลี่ยนวิธีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2563 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยได้ดำเนินการตามพระราชกำหนด ว่าด้วยการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2563 ประกาศกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เรื่อง มาตรฐานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2563 ประกาศจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา เรื่อง มาตรการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิค-19 (Covid-19) และประกาศนายทะเบียนสหกรณ์ เรื่อง สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) กับการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของสหกรณ์
สหกรณ์ฯ ได้จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2563 วันที่ 17 มกราคม 2564 ด้วยระบบ Zoom โดยได้กำหนดสถานที่ในการจัดประชุม 16 จุดทั่วจังหวัดนครราชสีมา จุดละไม่เกิน 50 คน ซึ่งมีผู้แทนสมาชิกที่เข้าร่วมประชุมทุกคนต้องทำการสแกน QR Code เข้าร่วมประชุม และ การลงมติในการประชุมแต่ละวาระ โดยจะเริ่มประชุมตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป เพื่อให้สหกรณ์สามารถดำเนินการประชุมตามวาระที่กำหนด
นายราชศักดิ์ ตระสินธุ์ สหกรณ์จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด–19 (Covid-19) จังหวัดนครราชสีมา ทำให้สหกรณ์ไม่สามารถประชุมใหญ่สามัญประจำปีได้ ในฐานะรองนายทะเบียนสหกรณ์ จึงได้ประสานงานกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมาและคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา ให้ช่วยกำหนดมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุม เพื่อให้ผู้แทนสมาชิก มีความเชื่อมั่นและปลอดภัยอย่างสูงสุด ที่จะดำเนินการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2563 โดยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งการประชุมครั้งนี้ทางสำนักงานสหกรณ์จังหวัดนครราชสีมาได้ส่งเจ้าหน้าที่ส่งเสริมสหกรณ์เข้าร่วมประชุมทั้ง 16 จุด เพื่อให้คำแนะนำในการประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ถูกตามระเบียบ ข้อบังคับ กฎหมายสหกรณ์และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง และให้ผู้แทนสมาชิกรู้เกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของสมาชิกสหกรณ์ ได้แก่ บทบาทเจ้าของสหกรณ์ และบทบาทผู้ใช้บริการของสหกรณ์ หน้าที่ของสมาชิกสหกรณ์ในการมีส่วนร่วมในการดำเนินธุรกิจสหกรณ์
สหกรณ์จังหวัดฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา จำกัด เป็นสหกรณ์ประเภทออมทรัพย์ขนาดใหญ่พิเศษ มีสมาชิกสหกรณ์ทั้งสิ้น 28,231 คน มีทุนดำเนินงาน 36,643,271,927.89 บาท ในปัจจุบันสหกรณ์สามารถปล่อยสินเชื่อให้สมาชิกสหกรณ์ได้ จำนวน 35,893,398,480.77 บาท ทำให้ในปีนี้สหกรณ์มีผลกำไรสุทธิ 1,383,983,111.63 บาท จ่ายเงินปันผลตามหุ้นให้กับสมาชิกสหกรณ์ได้ในอัตราร้อยละ 5.70 จำนวน 947,120,664.13 บาท และจ่ายเงินเฉลี่ยคืนให้กับสมาชิกที่ร่วมทำธุรกิจสินเชื่อกับสหกรณ์ในอัตราร้อยละ 9.00 จำนวนเงิน 190,090,473.88 บาท รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,164,211,138.01 บาท จะส่งผลให้มีเงินสะพัดพร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดนครราชสีมาและเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในระบบสหกรณ์
ทั้งนี้ ทำให้สมาชิกสหกรณ์มีความมั่นใจการบริหารงานของคณะกรรมการดำเนินการ การปฏิบัติงานของฝ่ายจัดการ เกิดความศรัทธาต่อสหกรณ์ของตนเอง ซึ่งจะส่งผลประกอบการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายจะทำให้ระบบสหกรณ์มีความมั่นคงและยั่งยืนต่อไป